DKSH ยกระดับส่งเครื่องมือแพทย์ทั่วไทย ชูคุณภาพ-ความเร็ว ตอบโจทย์ผู้ป่วย

03 ก.ค. 2568 | 12:39 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ก.ค. 2568 | 04:31 น.

DKSH ขยายโมเดล "ศูนย์กระจายสินค้าระดับภูมิภาค" ยกระดับการเข้าถึงเครื่องมือแพทย์ทั่วไทย ดันการเติบโตตามตลาด รองรับสังคมผู้สูงอายุ และ Medical Tourism and Wellness

นายกุลชนม์ ยิ่งชัยยะกมล ผู้จัดการทั่วไป แผนก Client Management ฝ่ายธุรกิจเฮลธ์แคร์อัลลายแอนซ์ – กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ (Healthcare Alliance - Medical Device) หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดเครื่องมือแพทย์ในประเทศไทยการแข่งขันค่อนข้างคึกคัก ปัจจุบันคากว่ามีมูลค่าประมาณ 8 หมื่นล้านบาท เติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 10 ปีที่ผ่านมาเฉลี่ย 5-6% ต่อปี

ในปี 2568 คาดการณ์รายได้ของ DKSH จะเติบโตไปตามทิศทางของตลาด ซึ่งจะต้องให้ความสำคัญกับความเร็วในการส่งสินค้าเป็นอย่างแรก เพราะเกี่ยวข้องกับชีวิตของผู้คนหรือผู้ใช้บริการ ถัดมาคือคุณภาพของสินค้า เทคโนโลยีที่ตรงโจทย์กับการใช้งานของบุคคลากรทางการแพทย์

DKSH ยกระดับส่งเครื่องมือแพทย์ทั่วไทย ชูคุณภาพ-ความเร็ว ตอบโจทย์ผู้ป่วย

โดยโอกาสทางธุรกิจของ DKSH คือการร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทคู่ค้าต่าง ๆ โดยสามารถกระจายสินค้าและบริการไปยังบุคคลากรทางการแพทย์ในประเทศไทยมากกว่า 90% ทั้งโรงพยาบาลรัฐประมาณ 900-1,000 แห่ง และโรงพยาบาลเอกชนประมาณ  400-500 แห่ง (ข้อมูลเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา) รองรับสังคมผู้สูงอายุ (Super Aging Society) การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และเวลเนส (Medical Tourism and Wellness) ที่รัฐบาลกำลังผลักดันและจะเพิ่มขึ้นในอนาคต

นอกจากนี้ จำนวนคนไข้หรือการเจ็บป่วยที่ต้องการรักษาจะยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง หากมองในภาวะปัจจุบันพื้นที่เขตกรุงเทพฯ อาจมีผู้มาใช้บริการทางการแพทย์ลดลง แต่ในพื้นที่รอบนอกหรือต่างจังหวัดค่อนข้างเติบโต ซึ่ง DKSH สามารถตอบสนองความต้องการของคนไข้ทั่วประเทศได้มากกว่า 95%

"ธุรกิจเครื่องมือทางการแพทย์ของประเทศไทย ยังมีปัจจัยบวกและมีโอกาสเติบโตไปตามความต้องการของประชากร นโยบายของภาครัฐก็จะยิ่งเสริมกำลังให้ตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับ DKSH ที่พยายามพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ขณะที่ปัจจัยลบมีแค่เรื่องต้นทุนการขนส่งที่เพิ่มขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญที่จะเป็นของผู้คน"

นายกุลชนม์ กล่าวว่า DKSH มีสาขาครอบคลุมเกือบทุกประเทศในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น กัมพูชา เวียดนาม สิงคโปร์ เป็นต้น แต่ละประเทศจะมีทีมบริหารจัดการต่างกัน และในประเทศไทยตลาดของ DKSH ยังคงอยู่ในอันดับต้นๆ ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉี่ยงใต้

DKSH ยกระดับส่งเครื่องมือแพทย์ทั่วไทย ชูคุณภาพ-ความเร็ว ตอบโจทย์ผู้ป่วย

นายวรพงษ์ สุรชัยกุลวัฒนา ผู้อำนวยการอาวุโส แผนก Supply Chain Management หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า DKSH มีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศ สามารถกระจายสินค้าได้อย่างทั่วถึง ด้วยการลงทุนในเรื่องของเทคโนโลยี มุ่นเน้นให้ลูกค้าได้รับสินค้าที่จะต้องมีคุณภาพและเร็วที่สุดในการจัดส่ง โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องการความเร่งด่วน เช่น บางกรณีที่ผู้ป่วยมีเวลาจำกัด 6-12 ชั่วโมง

"เรานำระบบ Machine Vision System (MVS) ที่ใช้ AI เข้ามาช่วยในการจัดการสินค้า ซึ่งมีความแม่นยำสูงถึง 99.8% หลังจากที่ AI ได้เรียนรู้และจดจำผลิตภัณฑ์ทุกมุม โดยไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อทดแทนคน แต่เพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพและความเร็วในการทำงาน"

เมื่อต้นปี 2568 ที่ผ่านมา DKSH ได้เปิดศูนย์กระจายสินค้าเครื่องมือแพทย์ระดับภูมิภาคแห่งแรกในภาคเหนือของประเทศไทย ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งช่วยลดเวลาในการจัดส่งสินค้าได้อย่างมาก เช่น แต่เดิมขนส่งจากกรุงเทพฯ ไป รพ.เชียงใหม่ 10 ใช้เวลากว่าชั่วโมง จะเหลือเพียง 15-20 นาที 

DKSH ยกระดับส่งเครื่องมือแพทย์ทั่วไทย ชูคุณภาพ-ความเร็ว ตอบโจทย์ผู้ป่วย

อย่างไรก็ตาม เครื่องมือแพทย์ในประเทศไทยยังคงพึ่งพาการนำเข้าถึงกว่า 70% การสร้างศักยภาพด้านการกระจายสินค้าในประเทศจึงเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิรูประบบสาธารณสุข และ DKSH ได้ผนึกความร่วมมือกับโรงพยาบาล คลินิก และผู้ให้บริการทางการแพทย์ทั่วประเทศ ผ่านเครือข่ายศูนย์กระจายสินค้าระดับภูมิภาคของบริษัทฯ

นับเป็นบทบาทและกลยุทธ์สำคัญในการตอบสนองความต้องการด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ให้เข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล 

DKSH ยกระดับส่งเครื่องมือแพทย์ทั่วไทย ชูคุณภาพ-ความเร็ว ตอบโจทย์ผู้ป่วย

ดังนั้น DKSH จะเดินหน้า ขยายเครือข่ายการกระจายสินค้าทั่วประเทศไทยในอนาคต เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ของประเทศไทย จากแรงขับเคลื่อนของบริการสุขภาพในภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น ทั้งการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่ต้องรับมือกับโรคเรื้อรังและส่งเสริมให้มีการป้องกันโรคมากขึ้น