KEY
POINTS
1 ตุลาคม 2568 นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 10/2568 ซึ่งเป็นครั้งแรกของปีงบประมาณ 2569 โดยนายพัฒนา รมว.สาธารณสุขได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้บริหารที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ทั้ง 6 ราย พร้อมย้ำว่าจะสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ร่วมดูแลพี่น้องประชาชน และร่วมพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศอย่างเต็มกำลังความรู้ความสามารถ
นายพัฒนา กล่าวว่า วันนี้ได้รับทราบโครงสร้างและบทบาทภารกิจของหน่วยงานกระทรวงสาธารณสุข และการดำเนินงานที่สำคัญโดยน้อมนำการพัฒนางานสาธารณสุขตามแนวพระราชดำริและโครงการเฉลิมพระเกียรติแล้ว ตนได้ให้ทิศทางการดำเนินงานในการยกระดับระบบสุขภาพไทยให้เป็นเสาหลักของความมั่นคงและคุณภาพชีวิตของประชาชน ได้แก่
1. นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ และฟอกไตฟรีได้ทุกแห่ง โดยขยายระบบ Telemedicine ให้ครอบคลุมทุก รพ.สต. และจัดให้มีเครื่องฉายแสงเพื่อการรักษาโรคมะเร็งครอบคลุมอย่างครอบคลุม
2. รอบรู้ เพื่ออยู่อย่างมีคุณภาพชีวิต มุ่งสร้างสังคมที่ประชาชนมีความรอบรู้เรื่องโรค การป้องกัน การดูแลตนเอง และการใช้บริการสุขภาพอย่างเหมาะสม มีข้อมูลสุขภาพที่เข้าถึงง่าย เข้าใจได้ และใช้ประโยชน์ได้จริง โดยภายใน 4 เดือน จะมีช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงความรอบรู้ด้านสุขภาพ ผ่าน Super App ด้านสุขภาพ และเสริมพลังแอปพลิเคชันต่าง ๆ ของกระทรวงสาธารณสุข ให้เข้าถึงประชาชนได้ไม่น้อยกว่า 30%
3. หมอไม่ล้า ประชาชนไม่รอ เชื่อมต่อทุกบริการผ่านเทคโนโลยี โดยพัฒนาหมอพร้อม เป็น "หมอพร้อม+" คือ Super App ด้านสุขภาพที่ประชาชนเข้าถึงบริการทุกอย่างได้ในแอปฯ เดียว ข้อมูลสุขภาพเชื่อมโยงเป็นระบบเดียวกันทั้้งประเทศ ตลอดจนใช้เทคโนโลยีช่วยลดความซ้ำซ้อน เพิ่มความแม่นยำ และสนับสนุนบุคลากรด้วย AI Chatbot และ IoT รวมทั้งการสร้างคลังข้อมูลกลางด้านสุขภาพ สำหรับการวิเคราะห์ บริหารจัดการ และรายงานผลแบบ Real Time
นอกจากนี้ จะร่วมขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลเรื่องคาร์บอน เครดิต ด้วยการเพิ่มพื้นที่สีเขียว การใช้รถยนต์ไฟฟ้า อาคารอนุรักษ์พลังงาน ตั้งเป้าสร้างพื้นที่สีเขียวในทุกโรงพยาบาล ไม่น้อยกว่า 25% ใน 4 เดือน
4. เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ ด้วยการแพทย์มูลค่าสูง จะพัฒนาประเทศไทยสู่การเป็น Medical & Wellness Hub แห่งภูมิภาค พัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและความงามของไทย การให้บริการศัลยกรรมตกแต่งและแก้ไข สมุนไพรไทย นวดไทย ไปสู่ตลาดระดับโลก
รวมทั้งผลักดันการแพทย์แม่นยำที่ใช้ข้อมูลจีโนมและ AI วางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล ต่อยอดด้วยผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ขั้นสูง (ATMPs) โดยจะเห็นการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม ได้แก่ พื้นที่นำร่องด้าน ATMPs ศูนย์ฝึกอบรมด้านการแพทย์แม่นยำ และ National ATMPs Center แผน Genomic Thailand ระยะที่ 2 รวมทั้งการให้บริการปลูกถ่ายอวัยวะที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น
5. ขวัญกำลังใจบุคลากรโดยเร่งดำเนินการเรื่องค่าตอบแทนตามภาระงาน ให้เป็นธรรมและเหมาะสม จัดสรรอัตรากำลังและทีมสนับสนุนให้เพียงพอตามบริบทของพื้นที่ ดูแลสวัสดิการและพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของโลก รวมถึงปรับปรุงโครงสร้าง กฎหมาย และระบบการทำงานให้ทันสมัย ลดภาระงานที่่ไม่จำเป็น
ด้านนายวรโชติ รมช.สาธารณสุข ระบุว่า พร้อมสนับสนุนการยกระดับการบริการและหน่วยบริการสุขภาพทุกระดับให้ก้าวทันทุกความท้าทายด้านสุขภาพของโลกและก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพโลกโดยสร้างความเข้มแข็งของระบบสุขภาพตั้งแต่ฐานราก คือ อสม.ด้วยการพัฒนาศักยภาพให้มีความเชี่ยวชาญ มีกฎหมายคุ้มครอง พร้อมดูแลสวัสดิการค่าตอบแทน
ส่วนการกระทำที่ผิดกฎหมายด้านสุขภาพจะมีการปราบปรามอย่างเข้มงวดเพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของคนไทยและจะวางระบบดูแลสุขภาพแรงงานต่างด้าว ให้มีการซื้อประกันสุขภาพและมีระบบเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อให้ติดตามตรวจสอบได้ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของประเทศ รวมถึงแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวนอกระบบเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพคนไทยและความมั่นคงของระบบสาธารณสุขไทย