กรมวิทย์ เฝ้าระวัง โควิดสายพันธุ์ใหม่ XFG  ระบาด ไทยพบแล้ว 33 ราย 

30 ก.ย. 2568 | 07:15 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ก.ย. 2568 | 07:23 น.

กรมวิทย์ เฝ้าระวังโควิดสายพันธุ์ใหม่ สเตรตัส 'XFG' แพร่ระบาดเป็นสายพันธุ์หลักทั่วโลก ไทยพบผู้ติดเชื้อสะสม 33 ราย ส่วนใหญ่มีอาการเล็กน้อย ยังไม่มีผู้ป่วยต้องรักษาตัวใน รพ. แนะประชาชนป้องกันตนเองต่อเนื่อง

KEY

POINTS

  • กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กำลังเฝ้าระวังโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ XFG ที่มีแนวโน้มระบาดเพิ่มขึ้นทั่วโลก
  • ประเทศไทยตรวจพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ XFG แล้วสะสม 33 ราย นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2568
  • ผู้ป่วยที่ติดเชื้อสายพันธุ์ XFG ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรงและยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่ามีความรุนแรงกว่าสายพันธุ์อื่น

30 กันยายน 2568 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์โควิด-19 พบว่า สายพันธุ์ "XFG" หรือที่เรียกว่า สเตรตัส (Stratus) กำลังกลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดทั่วโลกโดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่า ทำให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงมากกว่าสายพันธุ์อื่น

นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยตรวจพบสายพันธุ์ XFG ครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน 2568 และจนถึงวันที่ 24 กันยายน 2568 มีรายงานสะสมแล้ว 33 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในเขตสุขภาพที่ 13 จำนวน 23 ราย โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง เช่น ไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก และปวดศีรษะ และยังไม่มีรายใดต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

ขณะเดียวกันกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ถอดรหัสพันธุกรรมเชื้อโควิด 19 อย่างต่อเนื่องโดยในช่วง 1 เมษายน – 24 กันยายน 2568 ได้ทำการถอดรหัสแล้ว 608 ตัวอย่าง พบว่า เป็น สายพันธุ์ NB.1.8.1* ร้อยละ 73.7 สายพันธุ์ XEC* ร้อยละ 8.7  สายพันธุ์ JN.1* ร้อยละ 6.4  สายพันธุ์ XFG* ร้อยละ 5.4  สายพันธุ์อื่น ๆ รวมร้อยละ 5.7 นับตั้งแต่เริ่มการระบาดในประเทศไทยเมื่อเดือนมกราคม 2563 จนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยได้เผยแพร่ข้อมูลจีโนมของเชื้อโควิด-19 เข้าสู่ฐานข้อมูลสากล GISAID แล้วกว่า 48,865 ราย เพื่อสนับสนุนระบบเฝ้าระวังโรคระดับโลก

กรมวิทย์ เฝ้าระวัง โควิดสายพันธุ์ใหม่ XFG  ระบาด ไทยพบแล้ว 33 ราย   

นายแพทย์ยงยศ เน้นย้ำว่า แม้สายพันธุ์ XFG ยังไม่ก่อให้เกิดอาการรุนแรงแต่ประชาชนควรป้องกันตนเองอย่างสม่ำเสมอ โดยล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด และหากมีอาการผิดปกติ เช่น ไข้ ไอ หรือหายใจลำบาก ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสม

นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์