24 กรกฎาคม 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานแถลงข่าว "๑๐+...๑๐๐+...๑,๐๐๐+...๑๐,๐๐๐+ มอบชีวิตใหม่ ดูแลด้วยใจ หายได้ด้วยเทคโนโลยีและศรัทธา" โดยมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์ และผู้บริหารที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมการแพทย์ ได้พัฒนาแนวทางการรักษาผู้ป่วยโรคซับซ้อนและรุนแรงด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูงที่ก้าวหน้าและปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างทั่วถึง เท่าเทียม และทันเวลาในทุกพื้นที่ เพิ่มโอกาสรอดชีวิตและลดความพิการ
ในวันนี้เป็นการประกาศ 5 ความสำเร็จของการใช้เทคโนโลยีและศรัทธาในการดูแลผู้ป่วย ถือเป็นความหวังสำหรับอนาคตของระบบสุขภาพไทย ประกอบด้วย
1. การกรอหินปูน เพื่อเปิดหลอดเลือดด้วยหัวกรอกากเพชรชนิดแรงเหวี่ยง ครบ 10 ดวง โดยสถาบันโรคทรวงอก
2. การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจโดยสายสวนในผู้ใหญ่ครบ 100 ดวง โดยสถาบันโรคทรวงอก
3. การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ โดยสายสวนในเด็กครบ 100 ดวง โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
4. การเปิดหลอดเลือดสมองโดยใช้สายสวนในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองครบ 1,000 ราย โดยสถาบันประสาทวิทยา
5. การส่งทีมแพทย์ดูแลพระสงฆ์และผู้แสวงบุญที่ดินแดนพุทธภูมิกว่า 10,000 ราย โดยโรงพยาบาลสงฆ์
"ทั้งหมดนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ในการนำเทคโนโลยีทางการแพทย์มาผสานกับหัวใจของความเป็นมนุษย์เพื่อให้การรักษาพยาบาลไม่ใช่เพียงแค่การยืดชีวิตแต่เป็นการคืนคุณภาพชีวิตแก่ผู้ป่วยทุกคน
ขอยืนยันว่า เทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูงเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้ และจะเดินหน้าพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ขอขอบคุณทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทุกสาขา ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้ รวมถึงสื่อมวลชนที่ช่วยส่งต่อข้อมูลที่เป็นประโยชน์สู่ประชาชน" นายสมศักดิ์กล่าว
ด้าน นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กรมการแพทย์เป็นกรมด้านวิชาการมีความพร้อมทั้งองค์ความรู้ เทคโนโลยีขั้นสูงที่ใช้รักษาผู้ป่วย และกำลังคนที่มีความเชี่ยวชาญหลายสาขา มีความมุ่งมั่นพัฒนาการจัดบริการทางการแพทย์เฉพาะทางระดับตติยภูมิที่ยุ่งยากซับซ้อน ให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงบริการรักษาโรคยากซับซ้อนได้อย่างทั่วถึงด้วยมาตรฐานเดียวกัน ตามปณิธานว่า "ทำดีที่สุด เพื่อทุกชีวิต" และมีเป้าหมายนำการแพทย์ไทย ให้เป็น 1 ใน 3 ของเอเชีย สำหรับความสำเร็จ ทั้ง 5 เรื่อง มีรายละเอียด ดังนี้
1."คืนชีพให้หัวใจด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง" โดยสถาบันโรคทรวงอกเริ่มทำการรักษาด้วยอุปกรณ์ขับเคลื่อนสายสวนหัวกรอกากเพชรแรงเหวี่ยง ในปี 2568 ซึ่งเป็นแห่งแรกในประเทศไทย จากสถิติพบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ที่มีหินปูนเกาะในหลอดเลือดหัวใจเข้ามารักษาที่สถาบันฯ กว่า 100 รายต่อปี หินปูนมีความแข็งส่งผลให้การขยายหลอดเลือดไม่สมบูรณ์ ขดลวดขยายตัวได้ไม่ดีและเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดการตีบกลับซ้ำของขดลวดหรือลิ่มเลือดอุดตันที่ขดลวด
การรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้ด้วยการกรอหินปูนด้วยหัวกรอกากเพชรชนิดแรงเหวี่ยง ครบ 10 ดวง พบว่าสามารถขยายหลอดเลือดหัวใจได้อย่างสมบูรณ์ ช่วยลดภาวะแทรกซ้อนช่วยให้หัวใจกลับมา ทำงานเป็นปกติอีกครั้ง โดยผู้ป่วยสามารถส่งตัวมาจากโรงพยาบาลทั่วประเทศหรือเข้ารับการรักษาโดยตรงที่สถาบันโรคทรวงอก
2. "เปิดโอกาสใหม่ให้หัวใจ ด้วยนวัตกรรมแพทย์เฉพาะทาง" โดยสถาบันโรคทรวงอก ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบเพิ่มมากขึ้นทุกปีโดยเฉพาะผู้สูงอายุ คาดว่า มีผู้ป่วยที่มีข้อบ่งชี้ในการรักษาด้วยการเปลี่ยนลิ้นหัวใจมากกว่า 10,000 รายทั่วประเทศ จำนวนนี้มีมากกว่า 100 รายที่ได้รับการรักษาด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือดเฉพาะทาง TAVI ผ่านสายสวนโดยไม่เปิดหน้าอก ช่วยลดความเสี่ยง ฟื้นตัวเร็ว ประสิทธิภาพเทียบเท่าสากล
จึงผลักดันให้โรงพยาบาลรัฐสามารถให้บริการนี้โดยไม่เสียค่าวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ส่วนเกินในทุกสิทธิการรักษา เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน โดยมีคลินิกโรคหัวใจ และ TAVI-HEART TEAM CLINIC สถาบันโรคทรวงอก รับปรึกษาส่งต่อจากเครือข่ายศูนย์หัวใจทั่วประเทศ
3. "หัวใจดวงน้อยได้โอกาสใหม่ ให้เติบโตเต็มดวง" โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ประเทศไทยมีอัตราทารกป่วยโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด 8 คนต่อทุกการเกิด 1,000 คน หรือพบราว 4,000 รายต่อปี จำนวนนี้เป็นโรคหัวใจพิการชนิดรุนแรง 400 ราย ต้องได้รับการรักษาโดยด่วน เดิมต้องผ่าตัดใหญ่อย่างต่อเนื่องเมื่อมีอายุมากขึ้น
ปัจจุบันสามารถเปลี่ยนลิ้นหัวใจผ่านสายสวนโดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดอก ช่วยให้หายเร็ว เจ็บน้อย และกลับไปใช้ชีวิตตามวัยได้เร็วขึ้น ซึ่งมีการรักษาด้วยวิธีนี้ตั้งแต่ปี 2556 ปัจจุบันครบ 100 ราย โดยสถาบันฯ เป็นแห่งแรกในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และได้ทำการรักษาได้มากที่สุดในประเทศไทย
4. "ลดตาย ลดพิการ ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง" ในปีที่ผ่านมาโรคหลอดเลือดสมองคร่าชีวิตคนไทยถึง 36,000 ราย โดยสถาบันประสาทวิทยาได้ทำการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองด้วยการใช้สายสวนและอุปกรณ์พิเศษในการดึงลิ่มเลือดหรือดูดออกจากหลอดเลือดสมองที่อุดตัน ช่วยลดโอกาสการเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต และช่วยชีวิตได้มากที่สุดของประเทศไทย จำนวน 1,000 รายในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันถูกจัดให้เป็นชุดสิทธิประโยชน์ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการรักษาเทคโนโลยีขั้นสูงได้ โดยให้การรักษาทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง มากกว่า 90 % เป็นผู้ป่วยได้รับการส่งต่อจากโรงพยาบาลเครือข่ายมายังสถาบันประสาทวิทยาเพื่อให้ได้รับการรักษา ผู้ป่วยมากกว่าร้อยละ 80 มีผลการรักษาที่ดีโดยสามารถนำลิ่มเลือดที่อุดตันออกได้สำเร็จ
5. "สุขภาพดีบนเส้นทางศรัทธา ไม่ละเลยแม้อยู่ห่างไกล" แต่ละปีมีผู้แสวงบุญชาวไทยเดินทางไปดินแดนพุทธภูมิ ประมาณ 70,000 - 100,000 คน กรมการแพทย์ ได้ส่งทีมแพทย์ พยาบาล เภสัชกร และทันตแพทย์ จากหน่วยงานในสังกัดกรม และสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขไปประจำการใน 3 จุด คือ พุทธคยา กุสินารา และลุมพินี
ครอบคลุมฤดูแสวงบุญและช่วงเข้าพรรษา โดยตั้งแต่ปี 2553-2568 ให้การดูแลรักษาพระสงฆ์และผู้แสวงบุญชาวไทย รวม 45,993 รูป/คน โดยให้บริการทั้งด้านการแพทย์ฉุกเฉิน เวชกรรมทั่วไป ทันตกรรม แพทย์แผนไทย และให้ความรู้ในการดูแลตนเอง ที่ผ่านมาได้ช่วยผู้ป่วยฉุกเฉินทั้งโรคหลอดเลือดสมอง อุบัติเหตุกระดูกแตกหัก เย็บแผลอุบัติเหตุ ทำให้ผู้แสวงบุญได้รับความปลอดภัยและกล่าวชื่นชมเป็นอย่างมาก
นี่คือตัวเลขที่ไม่ใช่แค่สถิติแต่คือ "ชีวิตใหม่" ที่ได้รับการมอบคืนด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์ และพลังแห่งเทคโนโลยีการแพทย์ไทย โดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข "ทำดีที่สุด เพื่อทุกชีวิต"