จากกรณีที่รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขโดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกร่างประกาศเตรียมนำ "กัญชา" กลับคืนเป็นยาเสพติดนั้น
ล่าสุด เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย โดยนายประสิทธิ์ชัย หนูนวล ออกแถลงการณ์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ระบุว่า จากกรณีที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขีดเส้น 45 วัน นำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติดหลังพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากรัฐบาล
การดำเนินการของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน เดินอยู่บนเส้นทางของข้อเท็จจริงหรือฉวยจังหวะแก้แค้นพรรคภูมิใจไทย เรื่องนี้นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะหากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขใช้การเอาชนะทางการเมืองมากำหนดสถานะของพืชสมุนไพรกัญชาจะทำให้ทุกอย่างเบี่ยงเบนจากเส้นทางที่ถูกต้อง
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน มีความพยายามอย่างหนักก่อนหน้านี้ในการนำกัญชากลับสู่ยาเสพติดแต่ไม่ประสบความสำเร็จ หลังจากนั้น สมศักดิ์ เทพสุทินก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลยเรื่องกัญชาที่พยายามพูดกับประชาชนว่า กัญชาอันตรายร้ายแรงแต่ตัวเองกลับเมินเฉยไม่มีมาตราการใดออกมาเลยแม้สักนิดเดียวแต่พอพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากรัฐบาล สมศักดิ์ เทพสุทิน กลับมาพูดประโยคเดิมอีกครั้ง คือ กัญชาอันตรายได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนมากมายเพื่อเป้าหมายเดียว คือนำกัญชากลับสู่ยาเสพติดอีกครั้ง
ทันทีที่พรรคภูมิใจไทยลาออกจากรัฐบาล สมศักดิ์ เทพสุทิน ดำเนินกิจกรรมสองประการ คือ การออกประกาศกระทรวงฉบับใหม่และปล่อยขบวนตรวจจับกัญชา เหตุใดก่อนหน้านี้จึงไม่ดำเนินการใด
ทั้งนี้ โดยข้อเท็จจริงแล้วตอนนี้การใช้กัญชามีน้อยมากจนร้านจำนวนมากทยอยปิดแต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกลับเบี่ยงเบนข้อเท็จจริงกระพือข้อมูลเพื่อสนองเป้าหมายสุดท้าย คือ นำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติด ฉะนั้น ในขณะนี้พืชกัญชากำลังถูกกลเกมส์ทางการเมืองควบคุมและเมื่อสมศักดิ์ เทพสุทิน ใช้การเมืองมากำหนดนโยบายมาตรการต่าง ๆ จะผิดพลาดและเอื้อประโยชน์แก่บางกลุ่ม
พิจารณาได้จากประกาศกระทรวงล่าสุดที่รัฐมนตรีเพิ่งลงนามไปนั้นมีมาตรการคุ้มครองที่อ่อนด้อยกว่าเดิมแต่กลับเพิ่มเงื่อนไขการผูกขาดโดยผู้เชี่ยวชาญเข้าไปแทนที่การคุ้มครองแบบเดิม
กล่าวคือ ประกาศเดิมห้ามจำหน่ายแก่ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีและห้ามจำหน่ายแก่นักเรียน ถูกตัดทิ้งไป มาตรการใหม่ที่มาแทนระบุว่า ผู้ที่ซื้อได้จะต้องมีใบอนุญาตจากแพทย์ มาตรการใหม่นี้มีจุดอ่อนตรงที่หากนักเรียนหาใบอนุญาตมาได้ก็สามารถซื้อกัญชาได้ แน่นอนที่สุดว่า ใบรับรองจากแพทย์นั้นซื้อหากันได้เมื่อเราพิจารณาจะพบว่า สิ่งที่สมศักดิ์ ประกาศว่าประชาชนเดือดร้อนจะต้องแก้ปัญหาแต่กลับออกมาตรการที่หละหลวมกว่าเดิมและเป็นการมอบอำนาจการใช้สมุนไพรต้นหนึ่งของประชาชนไปอยู่ในมือของผู้เชี่ยวชาญที่รังเกียจกัญชา พฤติกรรมของรัฐมนตรีทั้งหมดจึงเป็นความพยายามปั้นแต่งสถานการณ์ทั้งมวลเพื่อให้เข้าทางของตนเอง
เหตุที่สมศักดิ์ เทพสุทิน ตัดมาตรการห้ามขายแก่นักเรียนและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 20 ปีออกไป เป็นการแสดงให้เห็นว่า สมศักดิ์ เทพสุทินไม่ได้ห่วงเยาวชนแต่อย่างใดและการมอบอำนาจการวินิจฉัยว่า ผู้ใดจะใช้กัญชาได้บ้างให้อยู่ในมือผู้เชี่ยวชาญเป็นการนำหลักการการผูกขาดด้วยผู้เชี่ยวชาญเข้ามาใช้ เพราะเป็นหลักการที่คิดว่าประชาชนยอมรับ แต่เป้าหมายที่แท้จริงของ สมศักดิ์ เทพสุทินคือ แสดงให้สังคมเห็นว่าตนเองหนุนกัญชาทางการแพทย์ เมื่อได้รับเสียงสนับสนุนก็จะดำเนินมาตรการที่ต้องการคือ การนำกัญชากลับสู่ยาเสพติด
สมศักดิ์ เทพสุทิน ชอบกฎหมายยาเสพติดก็เพราะเมื่อนำกัญชาไปขังไว้แล้ว ก็สามารถออกมาตรการเฉพาะให้กับบุคคลเฉพาะสามารถปลูก แปรรูป จำหน่าย ส่งออกกัญชาได้และนี่คือจุดเริ่มต้นของการผูกขาดกัญชาที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านต่อปี เป้าหมายของสมศักดิ์ เทพสุทิน คือจุดนี้ มิใช่ห่วงใยเยาวชนอย่างที่กล่าวอ้าง การอยากผูกขาดมูลค่ามหาศาลของกัญชาประกอบกับการแก้แค้นทางการเมือง วันนี้สมศักดิ์ เทพสุทิน จึงเบี่ยงเบนข้อเท็จจริงทุกประการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายแห่งตน
เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยมิอาจปล่อยให้นักการเมืองคนหนึ่งใช้กลเกมส์มาเบี่ยงเบนข้อเท็จจริงของกัญชาเพื่อนำไปสู่การควบคุมเพื่อการผูกขาดภายใต้กฎหมายยาเสพติด จึงขอให้สมศักดิ์ เทพสุทิน ยุติพฤติกรรมนี้เสีย โดยเครือข่ายเขียนอนาคกัญชาไทยขอประกาศภารกิจสำคัญ 2 ประการ
1.ขอแก้ไขประกาศกระทรวงฉบับลงนาม 23 มิถุนายน 2568 โดยขอให้นำหลักการเดิมกลับมาใช้ คือ ทุกคนมีสิทธิเข้าถึงกัญชาได้ภายใต้มาตรการควบคุม ทั้งนี้ เพราะรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้นำหลักการใหม่มาใช้ในร่างประกาศกระทรวงฉบับใหม่แทนที่คือ ผู้เข้าถึงกัญชาได้จะต้องมีใบผ่านทางโดยการอนุญาตของคนกลุ่มเดียว การมีใบผ่านทางโดยการอนุญาตของผู้ที่ถูกสถาปนาว่าเชี่ยวชาญจะเกิดการทุจริตและการออกใบอนุญาตไม่สะท้อนความเป็นจริงทางการแพทย์แต่อย่างใด และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้
2.ขอให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน หยุดเพ้อฝันว่าจะนำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติด สิ่งที่สมศักดิ์ เทพสุทิน ควรจะต้องรีบดำเนินการคือ นำร่าง พ.ร.บ.กัญชา ที่หมอชลน่าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธรณสุขคนก่อนจากพรรคเดียวกัน ซึ่งผ่านการรับฟังความเห็นเรียบร้อยแล้วเข้าสู่คณะรัฐมนตรี ซึ่งสิ่งนี้สมศักดิ์ เทพสุทิน ควรดำเนินการมาตั้งนานแล้วแต่กลับสร้างวาทกรรมวนเวียนจนรัฐบาลจะสิ้นอายุอีกไม่กี่วัน พ.ร.บ.กัญชาก็ยังไม่เดินหน้า ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า สมศักดิ์ เทพสุทิน มีเป้าหมายต่อกัญชาเพื่อการใด
เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยขอประกาศเชิญชวนทุกท่าน พร้อมกันที่กระทรวงสาธารณสุขในวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.00 น. เพื่อดำเนินภารกิจทั้ง2ประการและเราตกลงร่วมกันว่าจะมีปฏิบัติการต่อเนื่องจนกว่ารัฐบาลจะเริ่มต้นผลักดันกฎหมาย พ.ร.บ.กัญชาและได้รับการเห็นชอบจากรัฐสภา