ศาสตราจารย์ ทันตแพทย์ ดร.พรชัย จันศิษย์ยานนท์ คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า คนไทยมีปัญหาใหญ่ด้านสุขภาพช่องปากอยู่ 2 อย่าง คือ ฟันผุ (Dental Caries) และโรคเหงือก (Periodontal Disease) ปัญหาในช่องปากยังทำให้เกิดโรคต่าง ๆ อีกหลายโรค เช่น ระบบย่อยอาหาร การเกิดโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เบาหวาน และโรคหัวใจ ซึ่งมีหลักฐานทางวิชาการชัดเจน การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีงานวิจัยรองรับจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญ
ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 1 ใน 59 อันดับแรกของโรงเรียนทันตแพทย์จากมหาวิทยาลัยทั่วโลก และเป็นคณะที่มีอันดับสูงที่สุดของจุฬาฯ มีผลงานวิจัยที่คุณภาพสูงจนต่อยอดจากงานวิชาการไปสู่นวัตกรรม ได้ก่อตั้งบริษัท ซี.ยู.เดนท์ อินโนเวชั่น จำกัด ขึ้นมาเพื่อสร้างผลิตภันฑ์ดูแลสุขภาพช่องปากออกสู่ตลาดไปถึงมือคนไทย
นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยรองรับในระดับเซลล์ ร่วมมือกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ สร้างผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นในช่องปากสำหรับสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขและแมว ที่คาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มากกว่าอัตราการเกิดของประชากรไทย โดยผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากทั้งของคนและสัตว์เลี้ยง จะออกสู่ตลาดภายใต้แบรนด์ "Chula Dent" ตั้งเป้าไว้ว่าภายในปี 2569 จะสร้างรายได้รวมถึง 100 ล้านบาท
ทันตแพทย์กฤษฎา เรืองอารีรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซี.ยู.เดนท์ อินโนเวชั่น จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมางานวิจัยของคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ค่อนข้างมีข้อจำกัดและไม่สามารถสร้างเป็นโปรดักส์สู่ท้องตลาดได้ การตั้งบริษัทขึ้นมา ก็เพื่อทำหน้าที่เป็น "Commercial Arm" หรือช่องทางเชิงพาณิชย์ ในการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมของคณะฯ ออกสู่ตลาดให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและจับต้องได้ เพื่อแก้ไขข้อจำกัดในอดีตที่งานวิจัยที่ไม่สามารถพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์จำหน่ายสู่ตลาดได้
"ไม่เพียงแค่ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากเท่านั้น ตอนนี้เรากำลังพัฒนาเครื่องมือรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (นอนกรน) เครื่องมือขยายขากรรไกรหลายแกน และกำลังมีการวิจัยร่วมกับ ปตท. เพื่อพัฒนา AI สำหรับตรวจเช็คภาวะเหงือกอักเสบและฟันผุด้วย"
ด้าน ดร.กรณิการ์ ชินประสิทธิ์ชัย ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท ซี.ยู.เดนท์ อินโนเวชั่น จำกัด กล่าวว่า จากเดิมบริษัทใช้ชื่อแบรนด์ "CUDENT" ก่อนจะเปลี่ยน "Chula Dent" ให้เป็นแบรนด์พรีเมี่ยมเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา เพื่อให้สอดคล้องกับคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ปัจจุบันมีสินค้า 13 SKUs ใน 6 หมวดหมู่หลัก ได้แก่
ทั้งนี้ สินค้ากลุ่ม Oral Care ในประเทศไทยมีมูลค่ากว่า 26,000 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากอย่างตลาดยาสีฟันก็มีมูลค่าสูงถึง 13,000 ล้านบาท ดังนั้น จึงได้วางกลุยุทธ์สำหรับผลักดันสินค้าของ Chula Dent ออกสู่ตลาด 2 ส่วน คือ
"เรามีช่องทางการจัดจำหน่ายแบบออฟไลน์และออนไลน์ในสัดส่วน 50:50 การเติบโตของยอดขายในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้นสู่งถึง 50% เมื่อเทียบกับปี 2567 จาก 3 ปัจจัยคือ 1.การเติบโตของตลาด E-commerce 2.คนไทยใส่ใจสุขภาพช่องปากของมากขึ้น 3.ความน่าเชื่อถือของสินค้าที่เป็นนวัตกรรมจากคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ"
ดร.กรณิการ์ กล่าวว่า Chula Dent ถูกวางไว้ให้เป็นสินค้าในระดับพรีเมี่ยม ที่มีราคาจับต้องได้ เข้าถึงง่าย ตอบโจทย์ผู้ใช้ มีช่องทางการจำหน่ายผ่านคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ทางออนไลน์ของแบรนด์ Chula Dent โรงพยาบาลต่าง ๆ (จุฬาลงกรณ์, รามาธิบดี, สภากาชาดไทย, สินแพทย์) ร้านานค้าชั้นนำ ตลอดจนคลินิกทันตกรรมหลายแห่งทั่วประเทศ และ KTC U SHOP (ออนไลน์) แพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการผ่านบัตรเครดิต
นางสาวสุชชวี บรรจบดี ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดดิจิทัล "KTC" หรือ บริษัท บัตรธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า KTC U SHOP เป็นบริการออนไลน์ที่คัดสรรผลิตภัณพ์ที่มีคุณภาพ เพื่อส่งมอบให้กับสมาชิกบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด KTC กว่า 2 ล้านราย ปัจจุบันค่าเฉลี่ยการซื้อสินค้าประมาณ 1,000 บาทต่อคนต่อเดือน ภาพรวมคาดหวังว่าจะมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องสอดคล้องไปกับเป้าหมายการเติบโตของบัตรเครดิต
"สำหรับผลิตภัณฑ์ Chula Dent ได้เข้ามาอยู่ใน KTC U SHOP มานานกว่า 1 ปี จะเป็นส่วนหนึ่งช่วยผลักดันการเติบโตของ KTC โดยตั้งเป้าการเติบโตในปี 2568 เฉลี่ยประมาณ 10% และคาดหวังในอนาคตจะเติบโตอย่างน้อย 10% ต่อปี พร้อมกับการขยายพันธมิตรและขยายผลิตตภัณฑ์ ที่มีคุณภาพน่าเชื่อถือต่อไปในอนาคต"