นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอ็กซ์ เวลเนส จำกัด เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ธุรกิจเฮลท์แอนด์เวลเนส เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพการเติบโตสูงทั่วโลก ข้อมูลจาก GWI (Global Wellness Institute) คาดว่าในปี 2568 จะมีมูลค่าธุรกิจเวลเนสทั่วโลกสูงถึง 7 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ 230 ล้านล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 9.9% ต่อปี และมีแนวโน้มจะขยายตัวสูงขึ้นเป็นกว่า 8.5 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ 306 ล้านล้านบาท โดยในปี 2570 คาดว่าเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2563 สูงกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
โดยประเทศไทยมีศักยภาพสูงในด้านธุรกิจเวลเนส ด้วยภูมิศาสตร์ที่ดี มีจุดแข็งด้านศักยภาพ 3 ด้าน คือ 1.การให้บริการด้านการแพทย์ แม้อาจจะยังไม่ใช่อันดับ 1 ของโลก แต่ถือเป็นประเทศที่กำลังเติบโตและมีศักยภาพสูง (up-and-coming) การแพทย์ได้รับการยอมรับในระดับสากล มีสถานพยาบาลคุณภาพที่ได้รับมาตรฐาน JCI กระจายอยู่ในทุกภาค ซึ่งเป็นอันดับ 4 ของโลก
2. บริการด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม (Hospitality Industry) มีชื่อเสียงและติดอันดับโลก จากรายงานของ GWI ในปี พ.ศ. 2563 ประเทศไทยติดอันดับ 9 ในเศรษฐกิจเวลเนสในแถบเอเชียแปซิฟิก และติดอันดับ 24 ของโลก เป็นประเทศเป้าหมายที่คนอยากมาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอันดับที่ 2 ของโลก รองจากออสเตรเลีย จากการจัดอันดับของ Wellness Tourism Initiative 2020
3.มนต์เสน่ห์ของศาสตร์การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic Wellness) ของไทย มีมิติในการดูแลสุขภาพหลากหลายและเปิดกว้าง รวมถึงภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์ อย่างการทำหัตถการทรีตเมนต์แพทย์แผนไทย หรือ “นวดไทย” ศาสตร์บำบัดที่องค์การยูเนสโก (UNESCO) ยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม
นายวรสิทธิ์ กล่าวว่า จากเทรนด์ดังกล่าวอาร์เอ็กซ์ฯ จึงมุ่งประกอบธุรกิจให้บริการด้านสุขภาพ เริ่มตั้งแต่ 4-5 ปี ก่อนเกิด COVID-19 สร้าง DNA ที่ให้บริการด้านสุขภาพเชิงป้องกัน แบบ Integrative Wellness ดูแลทั้งร่างกาย จิตใจ ด้วยศาสตร์การแพทย์ Modern Medicine และ Alternative Medicine ที่หลากหลาย อาทิ ศาสตร์แพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน อายุรเวท พลังงานบำบัด สปาเพื่อการผ่อนคลาย รวมไปถึงเรื่อง อาหารและการพักผ่อน เพื่อให้ผู้ใช้บริการมี Life Span และ Health Span ที่ดีในแบบองค์รวม
โดยจะเน้นการดูแลสุขภาพแบบเชิงลึกถึงระดับเซล ด้วยเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์สมัยใหม่ ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง จากศูนย์ส่งเสริมสุขภาพและเวชศาสตร์ชะลอวัย (VitalLife Scientific Wellness Clinic) โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์และศาสตร์การแพทย์องค์รวม Holistic Wellness ภายใต้ชื่อ RAKxa Jai เข้าไว้ด้วยกัน นับเป็นศูนย์บูรณาการสุขภาพและการแพทย์แบบองค์รวมแห่งแรกในเอเชีย และยังมี RXV Wellness Village ที่จะเน้นบริการด้านสุขภาพในรูปแบบที่สนุกและเข้าใจง่ายสำหรับทุกช่วงวัย ตั้งแต่ระดับครอบครัวไปจนถึงกลุ่มลูกค้าระดับองค์กร
“บริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2567 โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 50% และในไตรมาส 1 ของปี 2568 มีรายได้เติบโตมากกว่าครึ่งหนึ่งของปีที่ผ่านมา เฉลี่ยการใช้จ่ายของลูกค้าจะอยู่ที่ประมาณ 1 แสนบาท จนถึง 1 ล้านบาทต่อคนต่อเดือน ส่วนใหญ่ 90% เป็นชาวต่างชาติ อาทิ ยุโรป ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย เอเชีย เป็นต้น และคนไทยตอนนี้มีสัดส่วน 10% โดยเราเน้นจับกลุ่มตลาดบน ลูกค้าระดับไฮเอนด์”
นายวรสิทธิ์ กล่าวว่า อาร์เอ็กซ์ เวลเนส ยังคงมุ่งเน้นวางแผนในการรุกตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ ที่ต้องการเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย และมีความต้องการเชิงสุขภาพเป็นหลัก อาทิ กลุ่มเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง ยุโรป และลูกค้าชาวไทยที่ต้องการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ตั้งเป้ารายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 40-50% ทุกปี ซึ่ง 20% ของลูกค้าในปัจจุบันมีอายุต่ำกว่า 35 ปี ส่วนกลุ่มเป้าหมายหลักยังเป็นกลุ่มช่วงอายุ 45–50 ปีขึ้นไป ดังนั้นธุรกิจเวลเนส จึงเติบโตได้ดีในทุกช่วงวัย
อย่างไรก็ตาม อยากให้ภาครัฐเข้ามาส่งเสริมดูเรื่องสถานประกอบการ ธุรกิจสุขภาพ กำหนดมาตรฐานของธุรกิจเวลเนสให้เหมาะสม เช่น การออกใบอนุญาตสถานประกอบการที่ตรงกับวัตถุประสงค์ รวมไปถึงนโยบายใบอนุญาตวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ต้องการเข้ามาดูแลสุขภาพในประเทศ Wellness Tourism ซึ่งจะช่วยผลักดัน Wellness ไทยไปสู่ระดับโลกได้