"กลิ่นแก่" คืออะไร ลักษณะแบบไหน แม้ไม่ใช่ผู้สูงวัยแต่ทำไมมีกลิ่นนี้

13 พ.ค. 2568 | 18:05 น.

"กลิ่นแก่" ปัญหาทางชีวเคมีในร่างกายของมนุษย์เมื่ออายุมากขึ้น เกิดจากหลายปัจจัยโดยเฉพาะวัย 40 ปีขึ้นไป หรือผู้สูงอายุ และอาจเกิดก่อนวัย โดยสามารถลดหรือป้องกันได้

“กลิ่นแก่” หรือกลิ่นจากผู้สูงอายุ (Aging Body Odor) เป็นกลิ่นเฉพาะที่เกิดจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีในร่างกายของมนุษย์เมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสารชนิดหนึ่งชื่อว่า 2-Nonenal เกิดจากการออกซิเดชันของกรดไขมันไม่อิ่มตัวในผิวหนัง โดยร่างกายจะผลิตสารนี้มากขึ้นเมื่ออายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป มีกลิ่นเฉพาะตัวคล้ายกลิ่นมันหืนหรือกลิ่นเหม็นอับบางชนิด มีคุณสมบัติไม่ละลายน้ำหรือไขมัน

ลักษณะของกลิ่นแก่

ส่วนใหญ่กลิ่นแก่มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากกลิ่นตัวทั่วไป ซึ่งเป็นผลผลิตจากการสลายของกรดไขมันไม่อิ่มตัว ในผิวหนังที่สัมผัสกับออกซิเจน (oxidative degradation) เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตสารนี้มากขึ้น ทำให้กลิ่นดังกล่าวเด่นชัดขึ้น ดังนี้

  • กลิ่นคล้าย “มันหืน” หรือ “เหม็นเปรี้ยวจาง ๆ” แม้จะอาบน้ำเป็นประจำ
  • เป็นกลิ่นลึก ๆ และติดทน
  • กลิ่นจะเด่นชัดช่วงเย็นหรือหลังตื่นนอน
  • เป็นกลิ่นที่ไม่สามารถล้างออกได้ง่ายด้วยสบู่หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั่วไป
  • กลิ่นมักจะติดอยู่บนเสื้อผ้า ผ้าปูที่นอน หรือหมอน แม้หลังจากซักแล้ว

ข้อสังเกตการเกิดกลิ่นแก่

  • คนใกล้ชิดอาจบอกว่า “มีกลิ่นเฉพาะ” ติดเสื้อผ้าหรือร่างกาย
  • สภาพผิวเริ่มแห้ง หยาบ และขาดความชุ่มชื้น ทำให้ไขมันออกซิไดซ์ง่ายขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มที่จะสร้างกลิ่นได้ชัดเจนกว่าผิวมัน

ปัจจัยเกิดกลิ่นแก่ก่อนวัย

  1. แบคทีเรียบางชนิดบนผิวหนัง สามารถทำให้เกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้ แบคทีเรียเหล่านี้เจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อม ซึ่งเกิดจากการที่ผิวผลิตน้ำมันได้ลดลง ซึ่งนำไปสู่การผลิตสารที่ทำให้เกิดกลิ่นคนแก่
  2. อาจเกิดจากสุขอนามัยส่วนบุคคล การอาบน้ำและรักษาความสะอาดที่ไม่สม่ำเสมอ อาจก่อให้เกิดกลิ่นกายที่คล้ายกับกลิ่นคนแก่ได้
  3. เสื้อผ้าที่ใส่ไม่สะอาด อาจดูดซับและกักเก็บกลิ่นไม่พึงประสงค์ จนก่อให้เกิดกลิ่นที่คล้ายกลิ่นคนแก่ได้
  4. อาจเกิดจากการรับประทานอาหารและยาบางชนิด เช่น กระเทียมหรือหัวหอม อาจทำให้กลิ่นตัวเปลี่ยนไป จนกลายเป็นกลิ่นเฉพาะตัวที่คล้ายกับกลิ่นคนแก่
  5. สภาวะสุขภาพพื้นฐาน เช่น โรคเบาหวานหรือโรคตับสามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของกลิ่นตัวได้ ในบางคนอาจมีกลิ่นคล้ายกลิ่นคนแก่

 วิธีลดหรือป้องกันกลิ่นแก่

  • อาบน้ำด้วยสบู่ที่ช่วยลดกลิ่น 
  • ซักเสื้อผ้าบ่อย ๆ เพื่อกำจัดไขมันและเหงื่อที่สะสม ใช้ผงซักฟอกที่ช่วยขจัดกลิ่น
  • ลดการบริโภคอาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น กระเทียม หรืออาหารที่มีไขมันสูง เพิ่มอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
  • ทำกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น ออกกำลังกาย เล่นโยคะ หรือฟังเพลง การพักผ่อนให้เพียงพอ ช่วยลดความเครียดและปรับสมดุลของร่างกาย โดยการออกกำลังกายจะช่วยให้ต่อมเหงื่อขยายและขับของเสียออกไป ลดสาเหตุการสะสมของเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรก

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นที่ควรทำเพื่อลกกลิ่นแก่ คือ 

  • งดสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่เป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มสารอนุมูลอิสระให้แก่ร่างกาย เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้แย่ลง ส่งผลเสียเกิดการสะสมของเสียในร่างกาย เพิ่มกลิ่นเหม็นตามต่อมผิวหนังต้องขับออกมามากกว่าเดิม
  • ลดเนื้อสัตว์ และไขมัน เพราะไขมันในเนื้อสัตว์จะกระตุ้นให้ต่อมผลิตไขมัน ขับความมันส่วนเกินออกมามากขึ้น เป็น 1 ใน 3 ตัวการหลักของการเกิดกลิ่นแก่ นอกจากนี้แนะนำให้เลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงทุกประเภทเพื่อลดการเกิดกลิ่น รวมไปถึงช่วยให้สุขภาพร่างกายดีขึ้นเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม กลิ่นเกิดจากการผสมกันระหว่างเหงื่อ ไขมัน และแบคทีเรีย การตัดวงจรไม่ให้เกิดกลิ่นคนแก่ง่าย ๆ จะช่วยลดกลิ่นได้มาก เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นสูงอายุ ทำให้ตัวเองเหงื่อออกน้อยที่สุด การเช็ดเหงื่อด้วยทิชชู่เปียกที่ระงับกลิ่น เป็นต้น

 

ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก เว็บไซต์ ออลล์เวล ไลฟ์