วันนี้ 19 เมษายน 2568 ภญ.สุภัทรา บุญเสริม ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 5 เปิดเผยว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) กาญจนบุรี ได้รับถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี (สอน.) และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ไปจากกระทรวงสาธารณสุขครบทั้งจังหวัด รวม 144 แห่ง และในปีงบประมาณ 2566 ได้ขอเป็นผู้บริหารงบเหมาจ่ายรายหัวจากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในส่วนบริการผู้ป่วยนอก (OP) และบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (P&P) ทั้งหมดเอง
ส่งผลให้ อบจ.กาญจนบุรีต้องชำระค่าบริการทางการแพทย์กรณีประชาชนไปเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลแม่ข่าย ของปีงบประมาณ 2566 รวม 228.46 ล้านบาท แต่จ่ายมาเพียง 76.48 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 33.48 ยังค้างจ่ายอีก 152 ล้านบาท โดยโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา มียอดเรียกเก็บสูงสุด 75.02 ล้านบาท ได้รับเงินเพียง 8.91 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11.89 เท่านั้น และมีโรงพยาบาล 4 แห่ง ที่ได้รับเงินไม่ถึงร้อยละ 1 ดังนี้
ภญ.สุภัทรา กล่าวต่อว่า สำหรับปีงบประมาณ 2567 โรงพยาบาลแม่ข่ายเป็นผู้บริหารจัดการงบประมาณเหมาจ่ายรายหัวแบบเหมาจ่าย จึงไม่มีการเรียกเก็บค่าบริการทางการแพทย์จาก อบจ.กาญจนบุรี แต่ในปีงบประมาณ 2568 นี้ อบจ.กาญจนบุรีขอเป็นผู้บริหารจัดการงบเหมาจ่ายรายหัวฯ อีกครั้ง จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาค้างจ่ายหนี้เช่นเดียวกับปีงบประมาณ 2566 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอการสรุปข้อมูลจาก สปสช. เพื่อเรียกเก็บเป็นรายไตรมาสต่อไป ส่งผลให้โรงพยาบาลในจังหวัดกาญจนบุรีหลายแห่งเกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง
โดยมีโรงพยาบาลแม่ข่าย 3 แห่งที่มีสถานะเงินบำรุงคงเหลือสุทธิติดลบ ได้แก่
ทำให้กระทบต่อการจ่ายหนี้ค่ายา ค่าวัสดุทางการแพทย์ และค่าตอบแทนบุคลากรของโรงพยาบาล ทั้งนี้ อบจ.กาญจนบุรีแจ้งว่าจะทยอยจ่ายเป็นรายอำเภอ แต่ไม่ระบุว่าจะจ่ายครบเมื่อไร จึงขอให้ อบจ.กาญจนบุรีเร่งทบทวนกระบวนการบริหารจัดการด้านงบประมาณ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับการจัดบริการประชาชนจังหวัดกาญจนบุรีของโรงพยาบาลในพื้นที่.