อสม.เฮ ครม.ไฟเขียวร่างพ.ร.บ. เพิ่มสวัสดิการอาสาสมัครสาธารณสุขฯ

08 เม.ย. 2568 | 08:10 น.
อัปเดตล่าสุด :08 เม.ย. 2568 | 08:21 น.

สมศักดิ์ แจ้งข่าวดี ครม.ผ่านร่างพ.ร.บ.อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เพิ่มสิทธิประโยชน์-สวัสดิการ ชี้เป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิต หวังสภาฯ เร่งผลักดันออกมาเป็นกฎหมายสำเร็จ

8 เมษายน 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ...หรือ ร่างพ.ร.บ.อสม. ถือเป็นก้าวแรก ก้าวสำคัญที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้อง อสม.ให้มีความมั่นคงขึ้น

หลังจากที่ตนเข้ารับตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข ก็ผลักดันเรื่องนี้เป็นลำดับแรกๆ ทันที ซึ่งใช้เวลา 11 เดือน กว่าจะผ่านการพิจารณาของ ครม. อย่างที่ทราบกันว่าระหว่างทางมีอุปสรรคปัญหาที่ต้องปรับแก้หลายรอบ กระทั่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็มาช่วยเร่งรัดทำให้กระบวนการต่างๆ เร็วขึ้น ซึ่งต้องแสดงความยินดีกับพี่น้อง อสม. แม้ว่ายังมีขั้นตอนที่ต้องให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา แต่อย่างน้อยก็ได้ผ่าน ครม.แล้ว

อสม.เฮ ครม.ไฟเขียวร่างพ.ร.บ. เพิ่มสวัสดิการอาสาสมัครสาธารณสุขฯ

เชื่อว่าในสภาฯ สส.จะร่วมกันผลักดันออกมาจนสำเร็จแน่นอน ซึ่งคงต้องรอสมัยประชุมหน้า เนื่องจากสมัยประชุมนี้กำลังจะปิดลงในวันที่ 11 เม.ย.นี้ หรือหากมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนฯ สมัยวิสามัญ ก็อาจโชคดีที่จะได้พ่วง ร่าง พ.ร.บ.อสม.ฯ นี้เข้าสู่ที่ประชุมไปด้วย 

ด้านนายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างพระราชบัญญัติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ. ..... ซึ่ง

สาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ อสม. เป็นกำลังสำคัญสำหรับการดูแลสุขภาพของประชาชนในชุมชนตามหลักการสาธารณสุขมูลฐาน และยกระดับทักษะและขีดความสามารถของ อสม. ให้ดำเนินการตามหลักการดังกล่าวได้สัมฤทธิ์ผล

ตลอดจนเสริมสร้างเครือข่ายการประสานงานบริหารกิจการ อสม. และดำเนินกิจกรรมด้านสุขภาพภายในชุมชนให้เป็นไปอย่างมีระบบและรับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลาและกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระระราชบัญญัติดังกล่าวตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอ 

สาระสำคัญร่างพระราชบัญญัติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ. ....  เป็นการยกระดับกฎหมายจากระเบียบ (ระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ. 2554) เป็นพระราชบัญญัติ

เพื่อให้การดำเนินงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) มีความเข้มแข็ง และ อสม. ได้รับการคุ้มครองในระดับที่สูงขึ้น มีหลักประกันในการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง และได้รับสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสม ซึ่งร่างพระราชบัญญัตินี้มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ อสม. มี 3 ประเภท เหมือนเดิม ได้แก่ 

1. อสม. 

2. อาสาสมัครสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร

3. อาสาสมัครสาธารณสุขอื่น ตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด โดยคำแนะนำของคณะกรรมการระดับประเทศ 

กำหนดให้มีคณะกรรมการเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มที่ 1 คณะกรรมการ ส่งเสริมและสนับสนุน อสม. แบ่งเป็น 4 คณะ ได้แก่ 

  • คณะกรรมการระดับประเทศ
  • คณะกรรมการระดับเขตสุขภาพ
  • คณะกรรมการระดับจังหวัด
  • คณะกรรมการกรุงเทพมหานคร

จากเดิมกำหนดให้มี 3 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านกลาง, คณะกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านระดับจังหวัด และคณะกรรมการส่งเสริมและคณะกรรมการสนับสนุนอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร 

อสม.เฮ ครม.ไฟเขียวร่างพ.ร.บ. เพิ่มสวัสดิการอาสาสมัครสาธารณสุขฯ

โดยคณะกรรมการระดับประเทศทำหน้าที่ในการเสนอนโยบายด้านการดำเนินงาน อสม. คณะกรรมการระดับเขตสุขภาพทำหน้าที่ดำเนินการตามโยบายในการส่งเสริมศักยภาพและสนับสนุนสวัสดิการ ให้แก่ อสม. ที่คณะกรรมการระดับประเทศกำหนดไว้ และจัดสรรให้มี อสม. ในแต่ละจังหวัดในสัดส่วนที่กำหนด ส่วนคณะกรรมการระดับจังหวัดและคณะกรรมการกรุงเทพมหานครทำหน้าที่ลักษณะเดียวกัน โดยดำเนินการตามนโยบายที่คณะกรรมการระดับประเทศกำหนดไว้ 

กลุ่มที่ 2 คณะกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครสาธารณสุขอื่น (เพิ่มจากเดิม) ทำหน้าที่ดำเนินการตามนโยบายเพื่อส่งเสริมศักยภาพและสนับสนุน อสม. อื่นซึ่งเกิดขึ้นตามร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้  

อสม.เฮ ครม.ไฟเขียวร่างพ.ร.บ. เพิ่มสวัสดิการอาสาสมัครสาธารณสุขฯ

นอกจากนี้ได้ปรับปรุงคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้มีสิทธิขึ้นทะเบียน อสม. เช่น ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี แต่ไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์

จากเดิม ต้องไม่ต่ำกว่า 18 ปี โดยมิได้กำหนดเกณฑ์อายุขั้นสูงและมิได้กำหนดลักษณะต้องห้ามไว้ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ด้านประชากรสูงวัยของประเทศในปัจจุบันที่เพิ่มมากขึ้น

กำหนดบทบาทหน้าที่และมาตรฐานจริยธรรมของ อสม. โดยให้ อสม. มีบทบาทและหน้าที่ในการให้บริการสาธารณสุขแก่ประชาชน ดำรงตนและปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมตามที่คณะกรรมการระดับประเทศกำหนดไว้ เพื่อให้การปฏิบัติงานของ อสม. มีมาตรฐานยิ่งขึ้น

จากเดิม มิได้กำหนดบทบาทหน้าที่เกี่ยวกับการดำรงตนและปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมไว้

ปรับปรุงวิธีร้องเรียน อสม. โดยให้ผู้ร้องเรียนยื่นคำร้องต่อนายทะเบียน เพื่อรายงานต่อคณะกรรมการระดับจังหวัดต่อไป เพื่อให้วิธีปฏิบัติในการร้องเรียนมีความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น (เดิม กำหนดให้หัวหน้าครัวร้อน หรือผู้แทนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หลังหาเรือนร่วมกันลงลายมือร้องเรียน อสม. ต่อนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เพื่อส่งให้คณะกรรมการะดับจังหวัดพิจารณาต่อไป) 

เพิ่มเหตุของการพ้นสภาพจากการเป็น อสม. ได้แก่ การไม่ผ่านการประเมินมาตรฐานการปฏิบัติงานและได้รับโทษโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก

จากเดิม กำหนดไว้เพียง 4 เหตุ ได้แก่ ตาย ลาออก เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมีคำสั่งให้พ้นสภาพ เพื่อให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น 

รวมทั้งเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้กับ อสม. ได้แก่  สิทธิในการรวมกลุ่มในลักษณะชมรม สมาคม หรือมูลนิธิ และสิทธิในการแต่งเครื่องแบบ อสม.

จากเดิม มิได้กำหนดไว้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ อสม. และเป็นการสร้างเครือข่ายของ อสม.  ให้มีความเข้มแข็ง 

ตลอดจนเพิ่มเติมในเรื่องการสนับสนุนกิจการ อสม. โดยให้ความช่วยเหลือเยียวยาและให้สวัดิการแก่ อสม. 2 กลุ่ม คือ 

1. อสม. ที่ปฏิบัติงานอยู่ 

2. อาสาสมัครสาธารณสุขอื่น เช่น อสม. ที่เป็นผู้สูงอายุซึ่งเคยปฏิบัติงาน จึงไม่ได้รับค่าป่วยการ (เนื่องจากร่างพระราชบัญญัตินี้กำหนดเพดานอายุขั้นสูงไว้ ทำให้ อสม. ผู้สูงอายุ ไม่ผ่านคุณสมบัติด้านอายุ และกำหนดให้มีการประเมินมาตรฐานการปฏิบัติงานซึ่งอาจไม่ผ่านการประเมินมาตรฐานได้)

โดยกำหนดให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เป็นหน่วยงานกลางในการสนับสนุน ซึ่งเงิน ทรัพย์สิน และดอกผลที่ได้รับเพื่อใช้ใช้ในการสนับสนุนกิจการดังกล่าว เช่น รายได้จากการบริจาค เงินสมทบจาก อสม. และรายได้อื่น ๆ ไม่ต้องส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน  

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้พิจารณาเห็นชอบในเรื่องไม่นำเงินส่งคลังด้วยแล้วตามนัยมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 เดิม มิได้กำหนดเงินและทรัพย์สินที่นำมาใช้ในการสนับสนุนกิจการ อสม.