เห็ดพิษหน้าฝนอันตรายถึงชีวิต แนะวิธีแยกเห็ด "กินได้-กินไม่ได้"

08 เม.ย. 2568 | 05:10 น.
อัปเดตล่าสุด :08 เม.ย. 2568 | 05:13 น.

สาธารณสุข เตือนประชาชนระวังกินเห็ดป่า -เห็ดที่ขึ้นเองตามธรรมชาติอาจเป็น "เห็ดพิษ" เสี่ยงเสียชีวิตได้ เผยวิธีสังเกต เคล็ดลับใช้ป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้

ช่วงนี้หลายพื้นที่เริ่มมีฝนตกทำให้เริ่มมีเห็ดป่า หรือเห็ดขึ้นเองตามธรรมชาติหลากหลายชนิด ทั้งเห็ดกินได้และเห็ดพิษ โดยเฉพาะเห็ดในระยะดอกตูมซึ่งมีลักษณะคล้ายกันจนไม่สามารถแยกได้ด้วยตาเปล่าหากไม่มีความรู้ความชำนาญ อาจทำให้เข้าใจผิดและนำเห็ดพิษมาปรุงประกอบอาหารจนเกิดการเจ็บป่วยและเสียชีวิตได้นั้น

นายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า เห็ดพิษที่เป็นสาเหตุการเจ็บป่วยและเสียชีวิตที่พบบ่อย คือ 

1. เห็ดระโงกพิษ บางแห่งเรียก เห็ดระโงกหิน เห็ดระงาก หรือ เห็ดไข่ตายซาก 

เห็ดพิษชนิดนี้มีลักษณะคล้ายกับเห็ดระโงกขาว หรือ เห็ดไข่ห่านซึ่งเป็นเห็ดกินได้ แตกต่างกันที่เห็ดระโงกขาวกินได้จะมีรอยขีดสั้น ๆ เหมือนกับซี่หวีที่ผิวรอบขอบหมวก เมื่อผ่าก้านจะเห็นว่า ก้านกลวง

เห็ดระโงก พบมากช่วงเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม มักพบในป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ หรือป่าที่มีลักษณะค่อนข้างโปร่ง มีแสงแดดส่องถึงพื้นล่าง และที่สำคัญ คือ มีไม้วงศ์ยางนา เช่น ยางนา ตะเคียน กระบาก รัง พะยอม 

หลังกินเห็ดระโงกพิษมักไม่เกิดอาการทันทีแต่จะมีอาการหลัง 4 - 6 ชั่วโมงไปแล้ว ควรรีบไปพบแพทย์แม้อาการจะดีขึ้นในช่วงแรกก็ตาม เพราะหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีพิษอาจทำลายตับและทำให้เสียชีวิตได้แม้กินเพียงดอกเดียว 

2. เห็ดถ่านเลือด ดอกจะมีขนาดใหญ่และหนา หลังดอกมีสีดำเล็กน้อย เมื่อหักก้านเนื้อสีขาวจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดงหรือสีแดงชาวบ้านจึงเรียกว่า เห็ดถ่านเลือด มีลักษณะคล้ายเห็ดถ่านใหญ่และเห็ดถ่านเล็ก พบมากช่วงเดือนกรกฎาคม มักขึ้นใต้ต้นเหียง (ซาด) และต้นพะยอม

หากรับประทานเข้าไปภายใน 2 ชั่วโมงจะเกิดอาการระคายเคืองระบบทางเดินอาหาร หลังจาก 6 ชั่วโมง จะมีอาการเจ็บกล้ามเนื้อเกิดภาวะกล้ามเนื้อสลาย จนกระทั่งตับและไตวายและเสียชีวิตได้

อาการหลังกินเห็ดพิษ : มีตั้งแต่เล็กน้อย ได้แก่ วิงเวียน อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลวจนถึงอาการรุนแรง ไตวาย ตับวาย และเสียชีวิต 

การปฐมพยาบาลเบื้องต้น : หากที่บ้านมีผงถ่านกัมมันต์หรือผงคาร์บอนให้รีบกินเพื่อดูดซับพิษและจิบน้ำเพื่อชดเชยของเหลวที่เสียไป ที่สำคัญควรรีบไปสถานพยาบาลใกล้บ้านให้เร็วที่สุด พร้อมแจ้งประวัติการกินเห็ดและนำตัวอย่างเห็ดที่เหลือหรือภาพถ่ายเห็ดไปด้วย

ไม่ควรกระตุ้นให้อาเจียน เช่น การล้วงคอหรือกินไข่ขาวดิบเพราะอาจทำให้สำลัก เกิดการติดเชื้อ เกิดแผลในคอและช่องปาก ความดันต่ำ หรือระดับเกลือแร่ผิดปกติจากการอาเจียนที่มากเกินไปเนื่องจากพิษจากเห็ดทำให้อาเจียนมากอยู่แล้ว

จึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเก็บและกินเห็ดป่า เห็ดที่ขึ้นเองตามธรรมชาติที่ไม่รู้จักหรือไม่แน่ใจว่ากินได้ ไม่เก็บเห็ดบริเวณที่มีการใช้สารเคมีเนื่องจากเห็ดจะดูดซับพิษจากสารเคมีมาไว้ในดอกเห็ด

ไม่กินเห็ดดิบ เช่น เห็ดน้ำหมาก หรือกินเห็ดร่วมกับเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เช่น เห็ดหิ่งห้อย เห็ดน้ำหมึก หรือเห็ดถั่วที่ขึ้นตามธรรมชาติเพราะจะทำให้เกิดพิษได้

พึงระลึกเสมอว่า เห็ดพิษทุกชนิดแม้ทำให้สุกด้วยความร้อนก็ไม่สามารถทำลายพิษได้ และที่สำคัญ คือ เห็ด ไม่รู้จัก ไม่แน่ใจ ไม่เก็บ ไม่กิน