สปสช. เพิ่มวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็น 6 ล้านโดส รับผู้ป่วยพุ่ง 1.6 เท่า

04 เม.ย. 2568 | 08:30 น.
อัปเดตล่าสุด :04 เม.ย. 2568 | 08:34 น.

รองโฆษก สธ.เผย สปสช.ปรับแผนจัดซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 1.4 ล้านโดสเป็น 6 ล้านโดส ครอบคลุมผู้สูงอายุ กลุ่มเสี่ยง สิทธิบัตรทอง 6 ล้านคนหลังผู้ป่วยสูงขึ้นกว่าปีก่อน 1.6 เท่า

4 เมษายน 2568 นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ รองโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะคณะอนุกรรมการจัดทำแผนการจัดซื้อยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นตามโครงการพิเศษ เปิดเผยว่า จากดำริของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) อนุมัติให้ สปสช.เสนอการปรับแผนการจัดหายาฯปีงบประมาณ 2568 เนื่องจากสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น

โดยแนวโน้มผู้ป่วยรายสัปดาห์ในปีนี้สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาในช่วงระยะเวลาเดียวกันประมาณ 1.6 เท่าและสูงกว่าค่ามัธยฐานทางย้อนหลัง 5 ปีเพื่อลดความรุนแรงของโรคและการเสียชีวิต สปสช. ได้ขอเสนอปรับแผนจัดซื้อวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น 1.43 ล้านโดส รวมเป็น 6 ล้านโดส ครอบคลุมในกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงราว 6 ล้านคนในระบบสิทธิ์บัตรทอง 30 บาทรักษาทุกที่ โดยใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นประมาณ 104 ล้านบาท และอยู่ในขั้นตอนขององค์การเภสัชกรรมจัดซื้อแล้ว

รวมถึงการขอปรับสูตรยาผู้ป่วยติดเชื้อ HIV เพื่อเพิ่มประสิทธิผลกับการรักษาผู้ป่วย โดยเฉพาะการลดปัญหาผลข้างเคียงที่น้อยกว่าในเรื่องไตจะทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จึงได้ขอเพิ่มงบประมาณอีกกว่า 15.2 ล้านบาท (15,281,200 บาท) สำหรับยาต้าน HIV สูตรใหม่

โดยการปรับแผนการจัดหายาในปีงบประมาณฯ ใช้งบประมาณเพิ่มขึ้น 148 ล้านบาท ซึ่งในภาพรวมไม่ส่งผลกระทบต่องบประมาณ เนื่องจากการบริหารงานที่โปร่งใสและมีธรรมาภิบาลในการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ไปแล้วมากกว่า 60% มีเงินเหลือจ่ายประหยัดได้ถึง 273 ล้านบาท

นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ รองโฆษกกระทรวงสาธารณสุข

ส่วนกรณีข้อวิพากษ์วิจารณ์ถึง นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในการร้องขอให้ กทม.มีการจัดซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ในฐานะคณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับพื้นที่เขต 13 กรุงเทพมหานคร และนายชัชชาติก็เป็นคณะอนุกรรมการฯ อยู่ด้วยคงทราบดีอยู่แล้วว่า มีการจัดซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้กับกลุ่มเสี่ยงผู้ใช้สิทธิบัตรทอง ของ สปสช อยู่แล้ว และในส่วนของประกันสังคมผู้ประกันตนอายุ 50 ปีขึ้นไป สามารถรับการฉีดวัคซีนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายรวมถึงสิทธิ์ข้าราชการ

ขณะนี้ทางกรมบัญชีกลางกำลังจัดทำสำรวจสิทธิของผู้มีสิทธิ์และบุคคลในครอบครัวตั้งแต่อายุ 65 ปีขึ้นไป สามารถเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลจากทางราชการได้ ส่วนประชาชนที่ไม่ได้รับสิทธิ์ใด ๆ ดังกล่าว ขอเข้ารับบริการกับทางโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขได้ โดยมีค่าใช้จ่ายเพียง 300-400 บาท เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เป็นต้นไป นายจิรพงษ์ กล่าว