นางสาวณิชชา จิรศาสตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โรงพยาบาลตากรุงเทพ จำกัด (EBH) และ AT Medical Clinic กล่าวว่า AT Medical Clinic ก้าวเข้าสู่ปีที่ 13 แล้ว ในธุรกิจความงามเกี่ยวกับตาสองชั้น ปัจจุบันมีอยู่ 10 สาขา กระจายตัวอยู่ในกรุงเทพฯ 5 สาขา ที่เดอะมอลล์บางแค, เซ็นทรัล พระราม 2, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต, เดอะ พรอมานาด, เซ็นทรัล ลาดพร้าว ส่วนในต่างจังหวัดมีอยู่ที่เซ็นทรัล อุดรธานี, เซ็นทรัล พัทยา, เซ็นทรัล หาดใหญ่, เซ็นทรัล ภูเก็ต และเซ็นทรัล เชียงใหม่
ในปี 2568 เตรียมเปิดคลิกนิกเพิ่มอีก 2 สาขา ไปที่เขตบางนา กรุงเทพ และเซ็นทรัล ขอนแก่น ด้วยงบลงทุนประมาณ 5-6 ล้านบาทต่อสาขา และภายใน 3 ปีจะเพิ่ม AT Medical Clinic และเปิดร้านแว่นตา Chud+ รวม 30 สาขา นอกจากนี้ยังได้เปิดโรงพยาบาลตากรุงเทพ บนพื้นที่ย่านฝั่งธนฯ ด้วยงบลงทุนมากกว่า 500 ล้านบาท เจาะกลุ่มรักษาโรคเกี่ยวกับดวงตาโดยเฉพาะ ซึ่งมีทีมแพทย์จากโรงพยาบาลชั้นนำมาคอยให้บริการทั้งแบบ Full Time และ Part Time
สำหรับโรงพยาบาลตากรุงเทพจะใช้ฐานลูกค้าในระบบของ AT Medical Clinic ประมาณ 5.5 หมื่นคน (ตัวเลข 7 ปี ย้อนหลัง) เพื่อขยายตลาดให้เติบโต ช่วยรองรับการรักษาจากคลินิกเครือข่ายทั้ง 10 สาขาอย่างครบวงจร โดยใช้จุดแข็งที่สะดวกต่อลูกค้าสำหรับผู้ที่ต้องติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง
"แต่เดิมโรงพยาบาลตากรุงเทพมีพื้นฐานมาจากการเป็นคลินิก หลังจากทำตาสองชั้นพบลูกค้าประสบปัญหาทั้งตาแห้ง เกิดต้อ มีสารพัดปัญหา จึงเป็นที่มาของโรงพยาบาลตากรุงเทพ ดังนั้นในเครือ EBH จะมีทั้งคลินิกและโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังมีร้านแว่นตา Chud+ และซัพพลีเม้นท์ที่เกี่ยวเนื่องกัน เช่น อาหารเสริมบำรุงสายตา คาดว่าจะได้เห็นภายในไตรมาส 2 ของปีนี้ประมาณ 2 โปรดักส์ และเปิดตัวต่อเนื่องในปี 2568 รวม 8 โรปดักส์ นอกจากนี้ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการขออนุญาตเปิดทำเลสิค โดยเราอยากเป็นเจ้าตลาดในเรื่องสุขภาพดวงตาอย่างครบวงจร"
นางสาวณิชชา กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายของ EBH อยู่ในทุกเพศทุกวัย ในปี 2568 ตั้งเป้าไว้ว่าจะสร้างรายได้ให้ถึง 300 ล้านบาท โดยจับลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ทั้งหมด ขณะที่ราคาอยู่ในระดับกลางจนถึงพรีเมี่ยมที่ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงได้ทุกคนทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ ผ่านการขายทางคลิกนิกประมาณ 20% ผ่านตัวแทนจัดจำหน่าย 20% และทางออนไลน์ 60%
ด้าน นายเอ สัตเดว์ กรรมการบริหาร โรงพยาบาลตากรุงเทพ กล่าวว่า โรงพยาบาลตากรุงเทพตั้งเป้าการเติบโตในปี 2568 ไว้ 15-20% หลังจากนั้นจึงจะไต่ระดับการเติบโตขึ้นให้ถึง 30-35% ภายใน 3 ปี และในปี 2570 บริษัท โรงพยาบาลตากรุงเทพ จำกัด (EBH) วางแผนไว้ว่าจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ (MAI) เพื่อต้องการฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ขับเคลื่อนธุรกิจไปอย่างยั่งยืน และมีอัตราการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ ครอบคลุมลูกค้าหลากหลายกลุ่มทั้งไทยและต่างประเทศ