กางแผน สพฉ. กู้ชีพช่วงปีใหม่ ย้ำสิทธิ UCEP เจ็บป่วยฉุกเฉิน ขออย่าโทรป่วน 1669

24 ธ.ค. 2568 | 05:31 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ธ.ค. 2568 | 05:50 น.

สพฉ. เตรียมพร้อมรับมือ 9 วันอันตรายปีใหม่ 2569 ขนทัพเทคโนโลยี AML ระบุพิกัดแม่นยำ พร้อม Sky Doctor กู้ชีพทางอากาศ และระบบวิดีโอคอลสอน CPR เรียลไทม์ ย้ำสิทธิ UCEP วิกฤตสีแดงรักษาฟรีทุกที่ วอนอย่าโทรป่วนสายด่วน 1669

KEY

POINTS

  • สพฉ. เตรียมมาตรการรับมืออุบัติเหตุช่วงปีใหม่ "9 วันอันตราย" โดยใช้เทคโนโลยี Sky Doctor และ AML ช่วยระบุพิกัดและเข้าถึงผู้ป่วยได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
  • ย้ำสิทธิ UCEP สำหรับผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (สีแดง) สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้ฟรี 72 ชั่วโมงแรก โดยแนะให้โทร 1669 เพื่อยืนยันสิทธิ
  • ขอความร่วมมือประชาชนงดโทรศัพท์ก่อกวนสายด่วน 1669 เพราะอาจทำให้ผู้ป่วยฉุกเฉินที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริงเสียโอกาสรอดชีวิต

วันที่ 24 ธ.ค.69 นายไพศาล ก้อนจำปา รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) นำผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สพฉ. อาทิ นางธัญรัตน์ อินทร ผู้อำนวยการกลุ่มสื่อสารการแพทย์ฉุกเฉิน พบปะและให้สัมภาษณ์พิเศษกับฐานเศรษฐกิจ และสื่อในเครื่อเนชั่น ถึงมาตรการเชิงรุกในการเตรียมความพร้อมรับมืออุบัติเหตุและเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีสถิติการเจ็บป่วยและสูญเสียเป็นกลุ่มก้อน โดย สพฉ. ได้บูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน

ยกระดับรับมือ "9 วันอันตราย" บูรณาการฐานข้อมูลแบบเรียลไทม์

สำหรับการปฏิบัติงานในปีนี้ สพฉ. จะเริ่มกระบวนการตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม ยาวไปจนถึงวันสรุปผลรวมทั้งสิ้น 9 วัน โดยจะทำงานร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รวมถึงกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงคมนาคม

สพฉ. จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางบริหารจัดการทรัพยากร ทั้งการกระจายรถพยาบาลและบุคลากร (Relocate) ให้ครอบคลุมจุดเสี่ยงและพื้นที่เกิดเหตุซ้ำซาก โดยอาศัยฐานข้อมูล 3 ส่วนหลัก ได้แก่ ข้อมูลการเจ็บป่วยจากกระทรวงสาธารณสุข ข้อมูลอุบัติเหตุจากกระทรวงคมนาคม และข้อมูลความปลอดภัยจากมหาดไทย เพื่อนำมาประเมินสถานการณ์และจัดการเหตุการณ์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ชู "Sky Doctor" และระบบ "AML" กู้ชีพไฮเทค เข้าถึงจุดเกิดเหตุเร็วขึ้น 4 นาที

ไฮไลท์สำคัญของการเตรียมพร้อมครั้งนี้คือ "Sky Doctor" หรือเครือข่ายเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางอากาศ ที่ปัจจุบันมีหน่วยปฏิบัติการ 28 หน่วยทั่วประเทศ โดยร่วมกับกองทัพ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกองบินฝนหลวง เพื่อเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยในพื้นที่เข้าถึงยากหรือการจราจรติดขัด

นายไพศาล ก้อนจำปา รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)

นอกจากนี้ สพฉ. ได้นำเทคโนโลยี AML (Advanced Mobile Location) มาใช้เพื่อแก้ปัญหาการระบุพิกัดผู้ป่วย ซึ่งในพื้นที่เมืองหนาแน่นระบบนี้มีความแม่นยำสูงถึง 5.6 เมตร และสามารถบอกความสูงในแนวดิ่งได้แม่นยำถึง 2.4 เมตร ทำให้ทราบทันทีว่าผู้ป่วยอยู่ชั้นไหนของอาคารโดยไม่ต้องเสียเวลาถามทาง

ระบบ AML ช่วยลดเวลาการเข้าถึงที่เกิดเหตุได้ประมาณ 4 นาที ซึ่งสำคัญมากต่อโอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วยวิกฤต โดยปกติในกรุงเทพฯ สถิติที่ดีที่สุดในการเข้าถึงที่เกิดเหตุคือ 20 นาที แต่หากมีระบบนี้จะช่วยลดเวลาลงเหลือเพียง 16 นาที

เปิดสถิติ Video Call 1669: สอนกู้ชีพ "Face to Face" ช่วยชีวิตเคสไวรัล

นางธัญรัตน์ เปิดเผยว่า ระบบ Video Call 1669 เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมาก โดยเฉพาะในเคสที่ผู้แจ้งทำอะไรไม่ถูก เจ้าหน้าที่จะส่งลิงก์ SMS ให้ผู้แจ้งเปิดกล้องเพื่อประเมินอาการและสอนวิธีการกู้ชีพเบื้องต้นแบบเรียลไทม์ เช่น การทำ CPR หรือการช่วยเหลือคนสำลักอาหาร

กางแผน สพฉ. กู้ชีพช่วงปีใหม่ ย้ำสิทธิ UCEP เจ็บป่วยฉุกเฉิน ขออย่าโทรป่วน 1669

จากสถิติในเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีการใช้งานระบบ NDEMS กว่า 50,000 ครั้ง แบ่งเป็นการระบุพิกัดกว่า 15,000 ครั้ง และการใช้งาน Video Call กว่า 40,000 ครั้ง มีตัวอย่างความสำเร็จที่เป็นกระแสไวรัล เช่น การสอนคุณแม่มือใหม่ในจังหวัดภูเก็ตช่วยชีวิตทารกวัย 2 เดือนที่สำลักนม โดยเจ้าหน้าที่สอนให้ใช้มือตบหลังและใช้เพียงนิ้วมือกดหน้าอกจนช่วยเด็กได้สำเร็จ รวมถึงเคสผู้สูงอายุหมดสติกลางวงข้าวที่เจ้าหน้าที่สอนให้เอาสิ่งแปลกปลอมออกจากคอก่อนทำ CPR

ทั้งนี้ กลุ่มอาการที่โทรแจ้งสูงสุด 4 อันดับแรก ได้แก่ 1. ปัญหาทางเดินหายใจ 2. เจ็บหน้าอก 3. อาการทางสมอง และ 4. อุบัติเหตุ

ย้ำสิทธิ UCEP "วิกฤตสีแดง" รักษาฟรี 72 ชั่วโมงแรก

สพฉ. เน้นย้ำเรื่อง สิทธิ UCEP (Universal Coverage for Emergency Patients) ซึ่งคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (สีแดง) ให้เข้ารักษาในโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้ทุกแห่งโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในช่วง 72 ชั่วโมงแรก

อย่างไรก็ตาม มักเกิดปัญหาเรื่องดุลพินิจของแพทย์ในโรงพยาบาลเอกชนที่ไม่ตรงกับญาติ สพฉ. จึงแนะนำให้ โทรแจ้ง 1669 เพื่อให้รถฉุกเฉินในระบบไปรับ เพราะหากเข้าสู่ระบบ 1669 จะมีการคัดกรองอาการตั้งแต่ต้นและยืนยันสิทธิวิกฤตสีแดงได้ชัดเจนกว่าการเดินทางไปเอง ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการถูกปฏิเสธสิทธิหรือต้องจ่ายเงินมัดจำจำนวนมาก

กางแผน สพฉ. กู้ชีพช่วงปีใหม่ ย้ำสิทธิ UCEP เจ็บป่วยฉุกเฉิน ขออย่าโทรป่วน 1669 กางแผน สพฉ. กู้ชีพช่วงปีใหม่ ย้ำสิทธิ UCEP เจ็บป่วยฉุกเฉิน ขออย่าโทรป่วน 1669 กางแผน สพฉ. กู้ชีพช่วงปีใหม่ ย้ำสิทธิ UCEP เจ็บป่วยฉุกเฉิน ขออย่าโทรป่วน 1669 กางแผน สพฉ. กู้ชีพช่วงปีใหม่ ย้ำสิทธิ UCEP เจ็บป่วยฉุกเฉิน ขออย่าโทรป่วน 1669

วอนอย่าโทรป่วนสายด่วน 1669

นายไพศาล ระบุว่า ขอความร่วมมือจากประชาชน "อย่าโทรป่วนสายด่วน 1669" เพราะทุกครั้งที่มีคนโทรเล่น อาจทำให้สายของผู้ป่วยวิกฤตที่กำลังรอความตายไม่สามารถโทรติดได้ ซึ่งหมายถึงการสูญเสียชีวิตหรือความทุพพลภาพอย่างประเมินค่าไม่ได้