เทรนด์ Pet Humanization 'ทองหล่อ-สมิติเวช ธนบุรี' เปิดรักษาโรคภูมิแพ้จากสัตว์เลี้ยง

01 พ.ย. 2568 | 07:16 น.
อัปเดตล่าสุด :01 พ.ย. 2568 | 07:25 น.

โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ผนึกรพ.สมิติเวช ธนบุรี ขับเคลื่อนโครงการ “One Health Services – Allergy Free for Pet Lover” สร้างภูมิคุ้มกัน “โรคภูมิแพ้จากสัตว์เลี้ยง” รับเทรนด์ Pet Humanization

KEY

POINTS

  • โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อร่วมมือกับโรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี เปิดตัวโครงการ “One Health Services – Allergy Free for Pet Lover” เพื่อแก้ปัญหาโรคภูมิแพ้จากสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น
  • ความร่วมมือนี้ใช้แนวคิด “One Health” โดยบูรณาการความรู้จากทีมสัตวแพทย์และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ เพื่อดูแลสุขภาพแบบครบวงจรทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยง
  • บริการจะเน้น 3 ด้านหลัก คือ การตรวจวินิจฉัยร่วมกัน, การให้คำแนะนำด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมในบ้าน และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และนวัตกรรมทางการแพทย์

“โรคภูมิแพ้จากสัตว์เลี้ยง” กลายเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่เติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย สอดคล้องกับกระแส “Pet Humanization” หรือเทรนด์คนรักสัตว์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงานและครอบครัวรุ่นใหม่ที่นิยมเลี้ยงสัตว์ในคอนโดหรือพื้นที่ปิด การยกระดับการรักษาแบบองค์รวมทั้ง เจ้าของและสัตว์เลี้ยงจึงเป็นสิ่งจำเป็น

สัตวแพทย์หญิง กฤติกา ชัยสุพัฒนากุล ประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เปิดเผยว่า โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ประกาศความร่วมมือครั้งกับ รงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี โดยสถาบันโรคภูมิแพ้สมิติเวช (Samitivej Allergy Institute) เปิดตัวโครงการ “One Health Services – Allergy Free for Pet Lover” ตอบโจทย์ปัญหาโรคภูมิจากสัตว์เลี้ยงที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในสังคมไทย

“อาการแพ้ กลายเป็นปัญหาที่พบมากขึ้นในปัจจุบัน ขณะที่โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ มีความมุ่งมั่นที่จะออกแบบ “วิถีชีวิตใหม่” ให้ปลอดภัยทั้งสองชีวิต จึงได้สร้างความร่วมมือทางการแพทย์ ร่วมกับ สถาบันโรคภูมิแพ้สมิติเวช (SAI) โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี เพื่อร่วมกันพัฒนาแนวทางการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร ที่จะช่วยให้เจ้าของและสัตว์เลี้ยงสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ปลอดภัย ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีอย่างยั่งยืน และสร้างความอบอุ่นในครอบครัวอย่างแท้จริง

โดยความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิด “One Health” ซึ่งเป็นการบูรณาการความรู้จาก ทีมสัตวแพทย์ ศูนย์โรคผิวหนังและภูมิแพ้ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ (TDAC : thonglor Dermatology and Allergy Center) ที่จะนำความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง องค์ความรู้เชิงลึกด้านสุขภาพสัตว์เลี้ยง และนวัตกรรมการแพทย์สัตว์สมัยใหม่ ที่โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อเป็นผู้นำในวงการ

เทรนด์ Pet Humanization  'ทองหล่อ-สมิติเวช ธนบุรี' เปิดรักษาโรคภูมิแพ้จากสัตว์เลี้ยง

มาผสานกับความรู้และนวัตกรรมทางการแพทย์ จากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้จาก สถาบันโรคภูมิแพ้ โรงพยาบาลสมิติเวชธนบุรี (SAI : Samitivej Allergy Institute) ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านการวินิจฉัยและรักษาโรคภูมิแพ้ในเด็กและผู้ใหญ่แบบครบวงจร และเป็นผู้นำในการรักษาโรคภูมิแพ้ระดับสากล เพื่อร่วมกันสร้างระบบการดูแลรักษาที่เข้าใจทั้งคนและสัตว์ในทุกมิติ

รวมทั้งการขยายเครือข่ายความร่วมมือไปยังพันธมิตรด้านสัตว์เลี้ยง ธุรกิจเพ็ทแคร์ และชุมชนคนรักสัตว์ทั่วประเทศ เพื่อสร้างสังคมที่ “คนและสัตว์อยู่ร่วมกันได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี” ผ่านกิจกรรมรณรงค์ โครงการให้ความรู้ ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ และบริการตรวจภูมิแพ้เชิงลึกที่เข้าถึงง่ายสำหรับทุกครอบครัวไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตลอดจนพื้นที่หัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ โดยเริ่มดำเนินการในเดือนพฤศจิกายนนี้

“ความร่วมมือนี้ไม่เพียงสร้างระบบการดูแลรักษาที่เข้าใจทั้งสองชีวิต แต่ยังเป็นการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ใหม่ของการแพทย์ที่ก้าวข้ามขอบเขตของโรงพยาบาล ( Let’s Go Beyond Hospitals ) เพื่อสร้าง ‘ระบบนิเวศแห่งสุขภาพที่ดีระหว่างคนและสัตว์’ (A Lifestyle of Well-being) ซึ่งไม่จำกัดเพียงการรักษาภูมิแพ้หรือผิวหนัง

เทรนด์ Pet Humanization  'ทองหล่อ-สมิติเวช ธนบุรี' เปิดรักษาโรคภูมิแพ้จากสัตว์เลี้ยง

แต่พร้อมต่อยอดสู่พันธมิตรทางการแพทย์ในอนาคต เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ในการดูแลและสร้างสังคมที่มนุษย์และสัตว์เลี้ยงอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน เพราะสำหรับเรา การดูแลที่ดีที่สุดไม่ได้จบที่การ ‘เลิกแพ้’ แต่คือการรักษา ‘ความผูกพัน’ ให้คงอยู่ตลอดไป”

ด้านนายแพทย์ ธีรวัฒน์ วงศ์สุวรรณะทัต ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาล สมิติเวชธนบุรี กล่าวว่า โครงการนี้จะเน้น 3 ด้านสำคัญ คือ

1.การตรวจวินิจฉัยร่วม (Human–Animal Allergy Screening) ร่วมปรึกษาและจัดการปัญหาภูมิแพ้ทั้งของคนและสัตว์เลี้ยง ผ่านความร่วมมือทั้ง 2 โรงพยาบาล

2.ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมในบ้าน (Pet Safe Environment) ให้คำแนะนำในการดูแลพื้นที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับผู้แพ้และสัตว์เลี้ยง

3.องค์ความรู้และนวัตกรรมร่วม (Joint Medical Knowledge) ถ่ายทอดเทคโนโลยีการตรวจสารก่อภูมิแพ้ การบำบัด และวัคซีนภูมิแพ้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค

“ในยุคที่สัตว์เลี้ยงกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เราเชื่อว่าการดูแลสุขภาพของเจ้าของและสัตว์เลี้ยงไปพร้อมกัน คือหัวใจของการสร้างคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน และนี่คือก้าวแรกของการยกระดับวงการแพทย์ไทยให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่อย่างแท้จริง” นพ.ธีรวัฒน์ กล่าว