คนไทยส่วนใหญ่ไม่พักผ่อนเพียงพอ 37% ระบุส่งผลต่อสมาธิในวันทำงาน

13 ต.ค. 2568 | 22:15 น.

ผลสำรวจเวอร์จิ้น แอ็คทีฟ เผยเพียง 19% รู้สึกฟื้นฟูร่างกายเต็มที่ทุกเช้า ขณะที่การเร่งรีบและภาวะหมดไฟเป็นเรื่องที่พบมาก

KEY

POINTS

  • ผลสำรวจพบว่า 37% ของคนทำงานไทยระบุว่าปัญหาการนอนหลับส่งผลกระทบต่อพลังงานและสมาธิในวันทำงาน
  • มีคนไทยเพียง 19% เท่านั้นที่รู้สึกว่าได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ในทุกเช้า และ 70% รู้สึกว่าใช้ชีวิตเร่งรีบอยู่ตลอดเวลา
  • แม้คนส่วนใหญ่ (55%) จะตระหนักว่าการนอนและฟื้นฟูร่างกายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่มีเพียง 21% ที่ตั้งใจจัดสรรเวลาเพื่อการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ

เนื่องในวันสุขภาพจิตโลก (World Mental Health Day) เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ประเทศไทย เปิดตัวแคมเปญระดับโลก “#VirginActiveReset” โดยมุ่งรณรงค์ให้ผู้บริโภคไทยและทั่วโลกให้ความสำคัญกับการพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกาย พร้อมย้ำว่าการจัดสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและการดูแลตัวเองเป็นเรื่องสำคัญต่อสุขภาวะโดยรวม

ผลสำรวจล่าสุดของเวอร์จิ้น แอ็คทีฟ จากกลุ่มผู้ทำงานไทยอายุ 25–65 ปี จำนวน 1,000 คน พบว่า 55% ระบุว่าการนอนและฟื้นฟูร่างกายเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี รองลงมาคือ โภชนาการ 42% และ สุขภาวะทางจิต 40% ข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ตระหนักถึงความจำเป็นของการพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกาย แต่การตระหนักเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ

แม้จะเข้าใจความสำคัญของการพักผ่อน แต่ผลสำรวจชี้ว่า 70% ของผู้ตอบแบบสอบถามเร่งรีบอยู่ตลอดเวลา และมีความต้องการเรียนรู้วิธีจัดการชีวิตให้ช้าลง เพื่อลดความเสี่ยงต่อภาวะหมดไฟ (Burnout) การเร่งรีบอย่างต่อเนื่องในชีวิตประจำวันส่งผลให้การพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกายมักถูกละเลย

ในส่วนของการนอน พบว่า เพียง 19% ของผู้ตอบแบบสอบถามรู้สึกพักผ่อนได้เต็มที่ทุกเช้า ขณะที่ 37% ระบุว่าปัญหาการนอนส่งผลต่อพลังงานและสมาธิในแต่ละวัน ข้อมูลนี้สะท้อนว่าแม้ผู้คนจะตระหนักถึงความสำคัญของการนอน แต่จำนวนผู้ที่สามารถจัดการและฟื้นฟูร่างกายได้จริงกลับมีน้อย

นาย จูเลียน เบรา

นาย จูเลียน เบรา ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยและสิงคโปร์ ของ เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ กล่าว “ท่ามกลางสังคมที่เร่งรีบในปัจจุบัน หลายคนละเลยความสำคัญของการใช้ชีวิตให้ช้าลง และการใส่ใจดูแลสุขภาพจิตและอารมณ์ของตนเอง วันสุขภาพจิตโลกจึงเป็นเครื่องย้ำเตือนที่ทรงพลัง ว่าสุขภาวะที่แท้จริงนั้นไปไกลกว่าแค่ความแข็งแรงทางกาย แต่คือการค้นหาความสมดุล ความยืดหยุ่น และความสงบสุขทางจิตใจ”

นอกจากนี้ ผลสำรวจยังระบุว่า มีเพียง 21% ของผู้ตอบแบบสอบถามเท่านั้นที่ตั้งใจจัดสรรเวลาสำหรับการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจในแต่ละวัน เช่น การทำสมาธิ การคลายกล้ามเนื้อด้วยโฟมโรลเลอร์ หรือการมีวันหยุดพัก การจัดเวลาฟื้นฟูอย่างเป็นระบบจึงเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคไทยส่วนใหญ่ยังต้องพัฒนา

คนไทยส่วนใหญ่ไม่พักผ่อนเพียงพอ 37% ระบุส่งผลต่อสมาธิในวันทำงาน

ผลสำรวจครั้งนี้จัดทำกับกลุ่มผู้ทำงานที่มีรายได้ระดับปานกลางถึงสูง ในพื้นที่กรุงเทพฯ, นนทบุรี และสมุทรปราการ จำนวน 1,000 คน ข้อมูลสะท้อนถึงความท้าทายของการสร้างสมดุลชีวิตในยุคปัจจุบัน และชี้ให้เห็นความจำเป็นในการให้ความสำคัญกับการพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกายเพื่อสุขภาวะที่ดีอย่างแท้จริง