โรคอ้วนเฮ เข้าเกณฑ์ทุพพลภาพ ประกันสังคมรักษา-ตัดกระเพาะฟรี

06 ต.ค. 2568 | 09:25 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ต.ค. 2568 | 09:25 น.

ประกันสังคมให้สิทธิผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39 เป็นโรคอ้วน เข้าเกณฑ์ทุพพลภาพ รักษา ตัดกระเพาะไม่เสียค่าใช้จ่าย

KEY

POINTS

  • ผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39 ที่ป่วยด้วยโรคอ้วนรุนแรงซึ่งเข้าเกณฑ์ภาวะทุพพลภาพ สามารถใช้สิทธิประกันสังคมเข้ารับการรักษาได้ฟรี
  • สิทธิประโยชน์ครอบคลุมถึงการผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อรักษาโรคอ้วน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หากมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
  • ผู้ป่วยต้องผ่านการวินิจฉัยและประเมินจากแพทย์ โดยต้องลองลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่น เช่น คุมอาหารและออกกำลังกายก่อน แต่ไม่ได้ผล

นางสาวบุปผา เรืองสุด เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยว่า สปส.ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลของผู้ประกันตนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม โดยผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และ มาตรา 39 สามารถใช้สิทธิการรักษาได้ทุกโรค ตั้งแต่การตรวจวินิจฉัยจนสิ้นสุดการรักษาในสถานพยาบาลตามสิทธิ 

รวมถึงกรณีผู้ประกันตนที่ป่วยด้วยโรคอ้วนในระดับรุนแรง เป็นปัญหาสุขภาพที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งอาจนำไปสู่โรคแทรกซ้อน เช่น โรคเบาหวานขั้นรุนแรง ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ 

อีกทั้งยังส่งผลต่อความสามารถในการประกอบอาชีพ ในบางกรณีอาจทำให้ผู้ประกันตนสูญเสียความสามารถในการทำงานได้อย่างถาวร

หากผู้ประกันตนได้รับการดูแล และได้รับการตรวจจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งวินิจฉัยแล้วว่า การรักษามีความจำเป็น และมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ตามเกณฑ์ อยู่ในภาวะอ้วนทุพพลภาพ สามารถยื่นเรื่องใช้สิทธิประกันสังคมเข้ารับการรักษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 

ซึ่งปัจจุบันมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่สถานพยาบาลที่ทำการรักษาสามารถผ่าตัดด้วยการส่องกล้องที่มีแผลผ่าตัดขนาดเล็กทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้น และลดภาวะแทรกซ้อน เมื่อเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิดแผลใหญ่ อีกทั้งยังสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติอีกด้วย

นางสาวบุปผา กล่าวต่อไปอีกว่า สปส.มีสถานพยาบาลที่ผ่านการประเมินศักยภาพการให้บริการผ่าตัดภาวะอ้วนที่เป็นโรคหรือโรคอ้วนทุพพลภาพ (Morbid Obesity) จำนวน 53 แห่งทั่วประเทศ

 

อย่างไรก็ดี แนะนำผู้ประกันตนที่ป่วยโรคอ้วนรุนแรง และเข้าเกณฑ์ตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ สามารถแจ้งสิทธิประกันสังคมเพื่อเข้ารับการรักษาได้ที่สถานพยาบาลคู่สัญญาของ สปส.โดยผู้ประกันตนจะต้องเริ่มเข้ารับการดูแลจากแพทย์เฉพาะทางอายุรกรรม ทำการตรวจสุขภาพและคำนวณระดับความอ้วนตามเกณฑ์ BMI ขั้นต้นก่อน ซึ่งแพทย์จะให้คำแนะนำให้ผู้ป่วยทดลองลดน้ำหนักด้วยวิธีทั่วไปก่อน เช่น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย 

แต่หากไม่สามารถลดน้ำหนักลงได้ แพทย์จะพิจารณาข้อบ่งชี้ในการผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อรักษาภาวะโรคอ้วนรุนแรง โดยผู้ประกันตนสามารถให้สถานพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม ส่งต่อไปยังสถานพยาบาลที่สามารถดูแลรักษาโรคอ้วนได้อย่างครบวงจร

"สิทธิการรักษาด้วยการผ่าตัดกระเพาะเพื่อรักษาโรคอ้วน เป็นการรักษาตามความจำเป็น และตามเกณฑ์ข้อบ่งชี้ทางการแพทย์เท่านั้น"