การรับประทานอาหารทอดในชีวิตประจำวันถือเป็นสิ่งที่หลายคนเลือกทำ แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า การบริโภคของทอดในปริมาณมากนั้นสามารถเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ในหลายๆ ด้าน แม้กระทั่งอาหารที่เริ่มต้นด้วยแคลอรีต่ำ การนำมาทอดสามารถเพิ่มปริมาณแคลอรีในอาหารอย่างไม่น่าเชื่อ
หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ "ของทอด" มีแคลอรีสูงก็คือการดูดซึมน้ำมันในระหว่างการทอด เนื่องจากกระบวนการนี้ทำให้ผลิตภัณฑ์อาหารดูดซับน้ำมันจำนวนมาก ซึ่งอาจทำให้ร่างกายได้รับพลังงานเกินความจำเป็น ส่งผลให้เกิดการสะสมของไขมันในร่างกาย ซึ่งเพิ่มโอกาสในการเป็นโรคอ้วนหรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับน้ำหนักตัว
อีกหนึ่งปัญหาสำคัญของการรับประทานอาหารทอดคือการมีไขมันทรานส์สูง น้ำมันที่ถูกทำให้ร้อนที่อุณหภูมิสูงเกินไปจะทำให้เกิดกระบวนการที่เรียกว่าไฮโดรจิเนชัน ซึ่งทำให้เกิดไขมันทรานส์ที่ไม่ดีต่อร่างกาย ไขมันทรานส์นี้จะส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) ในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันก็ลดระดับคอเลสเตอรอลดี (HDL) ลง ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจหลอดเลือดอื่น ๆ อย่างมาก
นอกจากนี้การทอดยังมีผลทำให้เกิดสารอะคริลาไมด์ ซึ่งเป็นสารที่เกิดขึ้นในระหว่างการปรุงอาหารที่มีส่วนผสมของแป้ง เช่น มันฝรั่ง เมื่ออุณหภูมิสูงเกินไป ซึ่งสารดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง แม้ว่าจะยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน แต่การหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารทอดเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้
นอกจากนี้การบริโภคของทอดเป็นประจำยังมีส่วนทำให้เกิดภาวะโรคอ้วนและเมตาบอลิกซินโดรม ซึ่งเกี่ยวข้องกับปัญหาหลายประการ เช่น ความดันโลหิตสูง น้ำตาลในเลือดสูง ไขมันในช่องท้องมากเกินไป และระดับคอเลสเตอรอลที่ผิดปกติ ภาวะดังกล่าวไม่เพียงแต่ทำให้เกิดโรคอ้วนเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และเบาหวานประเภท 2
สุดท้ายกระบวนการทอดยังส่งผลต่อการสูญเสียสารอาหารที่จำเป็นจากอาหาร โดยความร้อนที่สูงในระหว่างการทอดสามารถทำให้วิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ เช่น วิตามินซี วิตามินบีรวม และโพแทสเซียม สูญหายไปอย่างมาก ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารที่ได้รับการปรุงอย่างเหมาะสมและหลีกเลี่ยงการทอดบ่อย ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว