กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ล่าสุดในประเทศไทย โดยข้อมูลวันที่ 3 มิถุนายน 2568 ผ่านระบบ Digital Disease Surveillance (DDS) พบผู้ป่วยรายใหม่ 10,192 ราย
จากการแบ่งประเภทของผู้ป่วย พบว่ามีผู้ป่วยนอกจำนวน 9,304 ราย และผู้ป่วยหนักที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 888 ราย นอกจากนี้ ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1 ราย
สำหรับยอดผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่ต้นปี 2568 จนถึงปัจจุบัน อยู่ที่ 323,301 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสมในปี 2568 รวมทั้งสิ้น 69 ราย
โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน XEC ยังคงเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ถึงแม้ว่าสายพันธุ์นี้จะมีอาการที่ไม่รุนแรงเท่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ แต่ด้วยความสามารถในการแพร่เชื้อที่สูงขึ้นถึง สองเท่า เมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่น ๆ ทำให้จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นยังคงเป็นปัญหาที่ทุกคนไม่ควรประมาท โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง
ข้อมูลจากประเทศสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และจีน ได้เปิดเผยว่าในปี 2567 สายพันธุ์โอมิครอน XEC นี้แพร่กระจายได้เร็วกว่าโอมิครอนสายพันธุ์อื่น ๆ ถึง 84% ในสหราชอาณาจักร, 90% ในสหรัฐอเมริกา และสูงถึง 110% ในจีน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเร็วในการแพร่เชื้อที่มากขึ้น แม้จะไม่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงเท่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ แต่ก็ทำให้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
จากข้อมูลที่ได้รับจากโรงพยาบาลรามาธิบดีและบริการสุขภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (NHS) ผู้ที่ติดเชื้อโอมิครอน XEC อาจมีอาการดังนี้:
แม้ว่าโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน XEC จะมีอาการไม่รุนแรงในผู้ป่วยทั่วไป แต่สำหรับกลุ่มเสี่ยงต่อโรคนี้จะมีโอกาสที่จะเกิดอาการรุนแรง ดังนี้:
โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน XEC เป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดได้เร็วและกระจายไปยังหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย แม้จะมีอาการที่ไม่รุนแรงในผู้ป่วยทั่วไป แต่ในกลุ่มเสี่ยงยังคงมีความเป็นห่วงในการเกิดอาการรุนแรง หากคุณมีอาการที่แสดงออกหรือสงสัยว่าติดเชื้อ ควรรีบตรวจและเข้ารับการรักษาทันที