รู้หรือไม่ สูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงทำให้ป่วยเป็นวัณโรค

04 มิ.ย. 2568 | 22:15 น.

รู้หรือไม่ สูบบุหรี่ทำให้ปอดอ่อนแอ ลดภูมิคุ้มกัน เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อวัณโรคและทำให้โรคกำเริบหลังการรักษา

การสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงการติดเชื้อวัณโรค (TB) และยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้วัณโรคที่อยู่ในระยะสงบกลับมาเป็นใหม่ได้ รวมถึงทำให้โรคมีความรุนแรงมากขึ้น

โดยมีผลต่อการฟื้นฟูและรักษาโรคได้ยากขึ้น ส่งผลให้ความเสี่ยงในการเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่า การสูบบุหรี่ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง ส่งผลให้ปอดไม่สามารถกำจัดเชื้อวัณโรคที่หายใจเข้าสู่ปอดได้ดีเท่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่จึงทำให้การรักษาวัณโรคไม่ประสบผลสำเร็จ และเพิ่มความเสี่ยงในการดื้อยา

รู้หรือไม่ สูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงทำให้ป่วยเป็นวัณโรค

สาเหตุที่การสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงวัณโรคและการเสียชีวิต

การสูบบุหรี่ทำให้เกิดการอักเสบในปอดและทำลายเนื้อเยื่อปอดอย่างเรื้อรัง ส่งผลให้โครงสร้างของปอดเสียหายและระบบภูมิคุ้มกันลดประสิทธิภาพลง เมื่อปอดไม่สามารถกำจัดเชื้อวัณโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เชื้อวัณโรคที่หายใจเข้าสู่ปอดก็จะเจริญเติบโตและแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น

ผู้ที่สูบบุหรี่ยังมีโอกาสสูงที่วัณโรคจะกลับมารุนแรงหรือลุกลามแม้จะผ่านการรักษาแล้ว ด้วยการที่ภูมิต้านทานลดลงจากการสูบบุหรี่ทำให้ปอดไม่มีความสามารถในการต่อต้านเชื้อวัณโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง มะเร็งปอด หรือโรคเอดส์ ซึ่งล้วนแต่ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายต่ำลงและทำให้วัณโรคสามารถกำเริบและลุกลามจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

วิธีการป้องกันการติดเชื้อวัณโรคจากการสูบบุหรี่

1.การเลิกสูบบุหรี่ เป็นการป้องกันที่มีประสิทธิภาพที่สุดเพื่อป้องกันการติดเชื้อวัณโรคและลดความเสี่ยงที่วัณโรคจะกลับมารุนแรงได้ การเลิกสูบบุหรี่จะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงขึ้น และช่วยให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อวัณโรคได้ดียิ่งขึ้น การฟื้นฟูระบบทางเดินหายใจและการทำงานของปอดจากการเลิกบุหรี่ยังทำให้การรักษาวัณโรคได้ผลดีกว่าผู้ที่ยังคงสูบบุหรี่

2.การควบคุมโรคประจำตัวอย่างเหมาะสม เช่น โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ดี, การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก, การเป็นมะเร็งที่ต้องใช้การรักษาด้วยยาเคมีบำบัด หรือการติดเชื้อเอดส์ หากระบบภูมิคุ้มกันลดลงจากสาเหตุเหล่านี้ วัณโรคก็สามารถกำเริบได้ง่ายขึ้น

3.การรักษาอย่างต่อเนื่องและครบถ้วน หากคุณได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นวัณโรค การรักษาด้วยยาอย่างเต็มที่และครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญ โดยไม่ควรหยุดยาเองหรือปรับปริมาณยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพื่อหลีกเลี่ยงการดื้อยาและการกลับมาของโรคในอนาคต

4.การตรวจสุขภาพประจำปี การตรวจหาวัณโรคในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ที่มีการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อวัณโรค, ผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพประจำตัว หรือผู้ที่สูบบุหรี่เป็นเวลานาน, เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถวินิจฉัยและรักษาได้ทันท่วงที

ความเสี่ยงจากการสูบบุหรี่

การสูบบุหรี่ยังส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบทางเดินหายใจ โดยทำให้การทำงานของปอดเสื่อมสภาพ และเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อจากภายนอก นอกจากวัณโรคแล้ว ยังเสี่ยงต่อโรคอื่น ๆ เช่น มะเร็งปอด, โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD), และปัญหาทางเดินหายใจต่าง ๆ การสูบบุหรี่ทำให้เยื่อบุทางเดินหายใจเสื่อมสภาพและไม่สามารถกำจัดสารพิษได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ภูมิต้านทานลดลง รวมถึงความสามารถในการฟื้นตัวจากโรคต่าง ๆ เช่น วัณโรคก็ลดลงไปด้วย

การเลิกสูบบุหรี่ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูและทำงานได้ดีขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาวัณโรคให้หายขาดและป้องกันไม่ให้วัณโรคกลับมาเป็นใหม่ การฟื้นฟูปอดและระบบทางเดินหายใจหลังจากการเลิกบุหรี่สามารถช่วยลดความเสี่ยงจากวัณโรคและโรคทางเดินหายใจอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ดังนั้น การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อวัณโรคและทำให้การรักษาวัณโรคไม่ประสบผลสำเร็จ อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคและการเสียชีวิตจากวัณโรค การเลิกสูบบุหรี่และการดูแลสุขภาพร่างกายอย่างถูกวิธี เช่น การควบคุมโรคประจำตัวและการรักษาอย่างต่อเนื่อง จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อวัณโรคและการกลับเป็นใหม่ รวมถึงช่วยฟื้นฟูร่างกายและป้องกันไม่ให้โรคมีความรุนแรงหรือส่งผลถึงชีวิตได้