"วันงดสูบบุหรี่โลก" 2568 มีประวัติและความสำคัญอย่างไร

30 พ.ค. 2568 | 22:00 น.

วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก เปิดประวัติ ความสำคัญ พร้อมอัปเดตคำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลกปีล่าสุด

วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี ถือเป็น “วันงดสูบบุหรี่โลก” (World No Tobacco Day) ซึ่งเริ่มจัดโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ตั้งแต่ปี 1988 เพื่อกระตุ้นให้ผู้สูบบุหรี่ทั่วโลกเลิกสูบ และสร้างความตระหนักให้กับรัฐบาลและประชาชน ถึงอันตรายของบุหรี่ที่ไม่เพียงส่งผลกับผู้สูบเอง แต่ยังมีผลกระทบต่อผู้ไม่สูบที่ต้องได้รับควันบุหรี่ หรือที่เรียกว่า “ควันบุหรี่จากผู้อื่น”

โดยข้อมูลจาก WHO ระบุว่า บุหรี่เป็นสาเหตุสำคัญของการเจ็บป่วยและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ซึ่งสามารถป้องกันได้ การสูบบุหรี่ทั่วโลกคร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 8 ล้านคนต่อปี และมีผู้ที่ไม่ได้สูบแต่ได้รับควันบุหรี่กว่า 1.2 ล้านคนที่เสียชีวิตในแต่ละปี

"วันงดสูบบุหรี่โลก" 2568 มีประวัติและความสำคัญอย่างไร

ประเทศไทยเองก็มีการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง โดยปี 2568 นี้ WHO ตั้งคำขวัญรณรงค์ว่า "กระชากหน้ากากธุรกิจบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า : นิโคตินเสพติด จน ตาย" เพื่อเตือนใจให้ผู้สูบบุหรี่ตัดสินใจเลิก และสนับสนุนให้รัฐบาลเพิ่มความเข้มงวดทางนโยบาย ควบคุมยาสูบอย่างเข้มข้น

ในแง่กฎหมายประเทศไทยมีมาตรการหลายอย่างที่ตอบรับกับแนวทาง WHO เช่น การแสดงภาพคำเตือนบนซองบุหรี่ซึ่งมีความชัดเจนมากขึ้น และมีข้อบังคับให้ซองบุหรี่แบบเรียบ เพื่อไม่ให้บุหรี่ดูน่าดึงดูด

ทั้งนี้ในปี 2566 ที่ผ่านมา การสำรวจพบว่า อัตราการสูบบุหรี่ของคนไทยลดลงจาก 19.9% ในปี 2558 เหลือประมาณ 17.9% ในปี 2566 โดยมีมาตรการเข้มงวดทั้งการขึ้นภาษีบุหรี่และมาตรการห้ามสูบในพื้นที่สาธารณะ

 

นอกจากคำขวัญแล้ว “วันงดสูบบุหรี่โลก” ยังมีสัญลักษณ์เป็นดอกลีลาวดี (หรือดอกลั่นทม) ซึ่งมีความหมายว่า การ “ละทิ้งความระทม” หรือ “เลิกความทุกข์” เปรียบเสมือนการเลิกสูบบุหรี่เพื่อละทิ้งความเจ็บป่วยและความทุกข์ที่มาจากการสูบบุหรี่

ด้วยเหตุนี้ วันงดสูบบุหรี่โลกจึงไม่ใช่แค่วันที่ให้เลิกสูบ แต่เป็นวันที่เตือนให้ทุกฝ่ายเห็นความสำคัญของการป้องกันโรคร้ายจากบุหรี่ เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพดีขึ้น ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของประเทศ และช่วยลดความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับโรคจากการสูบบุหรี่ที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาทต่อปี

สรุปแล้ว “วันงดสูบบุหรี่โลก 2568” เป็นโอกาสที่รัฐบาล ภาคธุรกิจ และประชาชนจะร่วมมือกันผลักดันมาตรการควบคุมบุหรี่ที่เข้มแข็ง เพื่อเป้าหมายสำคัญคือ ลดจำนวนผู้สูบบุหรี่และลดผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว