ยีนส์หมื่นล้านปะทุศึก ยี่ห้อดังอัดแคมเปญสาดคอลเลกชันใหม่กระหึ่ม

18 ก.ย. 2559 | 06:15 น.
สมรภูมิยีนส์หมื่นล้านปะทุ ยี่ห้อดังพาเหรดชิงส่วนแบ่งการตลาด งัดสารพัดกลยุทธ์เพิ่มยอดขาย “แม็คยีนส์” โหมทำตลาดเพิ่มแวลูให้ลูกค้า ดึงแบรนด์ในเครือผนึกโปรโมชันทั้งแถม-แลกซื้อ ด้าน “ลี” เตรียมเจาะกลุ่มผู้หญิง เปิดตัวสินค้านำเข้า BODY OPTIX ขณะที่“เอราวอน” เจ้าตลาดออนไลน์ รุกทำตลาดกลุ่มคอร์ปอเรต ทั้งสตาร์ตอัพและเอสเอ็มอีรุ่นใหม่ ผลิตยูนิฟอร์มป้อน ฟาก “โนบอดี้ยีนส์” เบนเข็มหันทำแคมเปญออนไลน์พร้อมเปิดตัวยีนส์สีนํ้าตาล ส่วน “บีเจ ยีนส์” ใจถึงดึงปอย-ตรีชฎา นั่งพรีเซนเตอร์เรียกลูกค้า

[caption id="attachment_98755" align="aligncenter" width="700"] กลยุทธ์การตลาดยีนส์แบรนด์ต่างๆ กลยุทธ์การตลาดยีนส์แบรนด์ต่างๆ[/caption]

นางสาวเพียงขวัญ สีสุทธิโพธิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าแฟชั่นแบรนด์ "แม็คยีนส์" เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า กลยุทธ์การทำตลาดจะเน้นการเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้า ด้วยการซื้อสินค้ายีนส์จะได้รับสินค้าซึ่งเป็นแบรนด์ในเครือ หรือการแลกซื้อด้วยราคาพิเศษ โดยไตรมาสสุดท้ายได้เตรียมผลิตภัณฑ์แบรนด์เอ็มแอนด์ซีชุดใหม่ และสินค้าเกี่ยวกับออกกำลังกายที่เป็นแบรนด์ใหม่ มาใช้แจกให้กับลูกค้าหรือแลกซื้อด้วยราคาพิเศษ จากปัจจุบันที่มีสินค้าบอดี้แคร์เซตของแบรนด์เอ็มแอนด์ซีเป็นสินค้าแลกซื้อ

"หลังประสบความสำเร็จจากการจัดแคมเปญซื้อกางเกงยีนส์ และได้รับข้าวสาร พัดลม ฯลฯ ในไตรมาสที่ผ่านมาถือเป็นการเพิ่มความคุ้มค่าให้กับลูกค้า ที่จ่ายเงินเท่าเดิมแต่ได้สินค้ามากขึ้น บริษัทจึงเตรียมใช้กลยุทธ์นี้ต่อเนื่อง นอกจากนี้เมื่อบริษัทเปิดตัวแบรนด์ใหม่ในเครือ จะนำมาเปิดตัวภายในร้านแม็คยีนส์ด้วยการให้เป็นสินค้าร่วมกับการซื้อผลิตภัณฑ์ยีนส์ ซึ่งไตรมาสสุดท้ายเตรียมเปิดตัวแบรนด์สินค้าเกี่ยวกับออกกำลังกายอีก 1 แบรนด์ด้วย ขณะเดียวกันบริษัทได้เปิดเว็บไซต์ mcshop.com เพื่อขายสินค้า ซึ่งกลยุทธ์ในช่องทางดังกล่าวจะเน้นการจำหน่ายสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟที่มีเฉพาะช่องทางออนไลน์ "

นางสาวเพียงขวัญ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันช่องทางรีเทลมีสัดส่วน 90% ส่วนช่องทางอื่นๆ มีสัดส่วน 10% บริษัทคาดว่าในอนาคต ช่องทางอื่นๆ จะเพิ่มขึ้นเป็น 20% ส่วนการใช้ป้อง- ณวัฒน์มาเป็นพรีเซนเตอร์และทำแคมเปญ Born to be ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดีทั้งกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวจีน ซึ่งฝ่ายบริหารอยู่ระหว่างการพิจารณาการต่อสัญญา เนื่องจากอายุสัญญาจะสิ้นสุดภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ที่ผ่านมาการใช้พรีเซนเตอร์ได้ช่วยทำให้สินค้าท่อนบนของบริษัท มียอดขายที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จากเดิมขายสินค้าท่อนบนได้ 1 ส่วน สินค้ากางเกงยีนส์ได้ 3 ส่วน ขณะนี้มียอดขายทั้งสองกลุ่มใกล้เคียงกัน คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีสัดส่วนเท่ากัน ซึ่งปัจจุบันแบรนด์แม็คยีนส์มีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 50% ของตลาดรวมผลิตภัณฑ์ยีนส์ 1 หมื่นล้านบาท

ด้านนายพุฒิชัย ไชยเวช ผู้จัดการอาวุโส ผลิตภัณฑ์ยีนส์ ลี (Lee) บริษัท เซ็นทรัลเทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ในเดือนตุลาคมนี้จะเปิดตัวสินค้าใหม่เจาะตลาดผู้หญิง ที่นำเข้ามา 100% เป็นกางเกงยีนส์รุ่น BODY OPTIX ที่มีเทคโนโลยีเนื้อผ้าและการตัดเย็บที่เหมาะกับผู้หญิงเอเชีย เพื่อทำตลาดเป็นหลักในช่วงไตรมาสสุดท้าย ซึ่งสินค้าจะวางจำหน่ายใน 10 จุดขายของกรุงเทพฯ ภาคเหนือ และภาคใต้ ขณะเดียวกันเตรียมจัดทำป๊อปอัพสโตร์ หรือร้านค้าชั่วคราว เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองสินค้าในจุดต่างๆ ด้วย

นอกจากนี้ ยังเตรียมจัดกิจกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ ที่เป็นการค้นหาสาวที่สวมใส่กางเกงยีนส์ได้สวยงามเพื่อรับของรางวัล ซึ่งอยู่ระหว่างการวางแผนในรายละเอียด นอกเหนือจากการทำกิจกรรมการซื้อสินค้าร่วมกับกลุ่มเซ็นทรัลออนไลน์ ขณะที่สินค้ากลุ่มผู้ชายบริษัทได้ใช้มาริโอ้ เมาเร่อ มาเป็นพรีเซนเตอร์ ซึ่งได้เตรียมวางแผนเพื่อทำกิจกรรมช่วงปลายปีเช่นกัน โดยที่ผ่านมาการใช้มาริโอเป็นพรีเซนเตอร์ ส่งผลให้ดึงกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นเข้ามาเพิ่มมากขึ้น รวมถึงกลุ่มลูกค้าชาวจีนด้วย ทำให้ในปีหน้ายังคงใช้เป็นพรีเซนเตอร์อย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ขณะที่นางสาวบุญจิรา คณารักษาพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ยู เคเค อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าแฟชั่นแบรนด์ "โนบอดี้ ยีนส์" กล่าวว่า ได้ขยายช่องทางขายผ่านเว็บไซต์ nobodyjeansshop.com เนื่องจากเป็นช่องทางที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน โดยได้เพิ่มงบประมาณการทำตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 70% ของงบประมาณโดยรวม และได้จัดแคมเปญ I am Nobody หรือ ใครๆ ก็ใส่โนบอดี้ได้ ด้วยการให้กลุ่มลูกค้าถ่ายรูปมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเพื่อร่วมสนุก นอกจากนี้ ยังซื้อสื่อโฆษณาออนไลน์เพื่อโปรโมตสินค้าด้วย

ทั้งนี้บริษัทได้เปิดตัวสินค้าใหม่กางเกงยีนส์ริมแดง รุ่นสีน้ำตาลและบลูเดนิม ซึ่งไม่มีแบรนด์ในท้องตลาดผลิตสีดังกล่าวออกมาขาย ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งช่วงการเปิดตัวได้ทำกิจกรรมโปรโมตสินค้าผ่านทางออนไลน์และออฟไลน์พร้อมกันด้วย บริษัทคาดว่ายอดขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ น่าจะมีสัดส่วน 15% ของยอดขายโดยรวม และคาดว่าผลประกอบการบริษัทจะเติบโตในอัตรา 5% ส่วนภาพรวมตลาดยีนส์ในปีนี้ยังมองว่าจะขยายตัวเพิ่มมากขึ้น จากแบรนด์สินค้าใหม่ที่เข้ามาทำตลาดเพิ่มมากขึ้น

นายชัยรัตน์ วัฒนโชติวัฒน์ กรรมการ บริษัท เซเลเบรท เว็ลธ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่นแบรนด์ "เอราวอน" กล่าวว่า ได้ขยายตลาดสินยีนส์ไปสู่กลุ่มลูกค้าองค์กร ที่ใช้ยีนส์เป็นชุดพนักงาน (ยูนิฟอร์ม) ส่วนใหญ่เป็นบริษัทคนรุ่นใหม่ทั้งกลุ่มสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีมีคำสั่งซื้อตั้งแต่บริษัทละ 50-500 ตัว ทั้งบริษัทในธุรกิจเพลง ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ ธุรกิจจำหน่ายสินค้า รวมถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ปัจจุบันมีลูกค้าที่อยู่ระหว่างรอการพัฒนาสินค้าให้กว่า 100 ราย

"ในช่องทางออนไลน์ที่ผ่านมาบริษัทเป็นผู้นำตลาดกางเกงสแล็ก ส่วนสินค้ายีนส์หลังเปิดตัวช่วงกลางปีที่ผ่านมา ก็ได้ผลตอบรับที่ดีมียอดายกว่า 1,000 ตัวต่อเดือน จากการทำตลาดผ่านช่องออนไลน์ ที่นอกเหนือจากเป็นลูกค้าทั่วไปแล้วยังขยายไปสู่ลูกค้าองค์กรด้วย ซึ่งบริษัทพัฒนารูปแบบ ดีไซน์ให้เหมาะสมกับแต่ละบริษัท ป้ายด้านหลังกางเกงเป็นสัญลักษณ์ของแต่ละองค์กร ที่ผ่านมายังไม่ได้เข้ามาจับตลาดกลุ่มนี้ ส่วนยอดขายคาดว่าภายในสิ้นปีนี้น่าจะมีสัดส่วนกว่า 20% และเพิ่มเป็น 50% ในปีหน้า"

สำหรับแนวทางการทำตลาดของบริษัทที่ผ่านมา ได้ใช้หลายกลยุทธ์ อาทิ การจับมือกับพันธมิตรทำตลาดร่วมกัน การโปรโมตสินค้าใหม่ผ่านช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง การพัฒนาสินค้าและราคาในตลาดระดับกลางราคาตั้งแต่ 1,300-2,000 บาท เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย การซื้อสื่อโฆษณาออนไลน์ การขยายช่องทางจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นต้น ส่วนภาวะตลาดสินค้ายีนส์ที่จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ปัจจุบันมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีสินค้าจำหน่ายทั้งรายเล็กและรายใหญ่ 70-100 แบรนด์ มียอดขายผ่านออนไลน์ 3-5 หมื่นตัวต่อเดือน ซึ่งในปีนี้น่าจะเติบเพิ่มขึ้นเท่าตัว จากการเข้ามาทำตลาดของแบรนด์ต่างๆ

นายพรเทพ กมลวิศิษฎ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีเจ ยีนส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้ายีนส์ "บีเจ" กล่าวว่า บริษัทเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่ ‘ปอย-ตรีชฎา เพื่อสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์บีเจ โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป โดยมีเป้าหมายเพื่อประชาสัมพันธ์สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักของลูกค้าคนไทย และนักท่องเที่ยวจีน ให้มากยิ่งขึ้น ผ่านทางบิลบอร์ด โฆษณาในเครื่องบิน รวมถึงออนไลน์

สำหรับตลาดกางเกงยีนส์ปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท เมื่อปีที่แล้วมีอัตราเติบโต 10% แต่ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตเป็นตัวเลขเดียว ส่วนยอดขายของบริษัทตั้งเป้าอัตราเติบโตไว้ที่ 5-10% ต่อเนื่องทุกปี ผ่านเคาน์เตอร์จำหน่ายในห้างสรรพสินค้า และร้านค้ามากกว่า 110 แห่ง ซึ่ง บีเจ ยีนส์ ช็อปมีสินค้าครบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นยีนส์สำหรับเด็ก ยีนส์สำหรับคนท้อง เสื้อผ้ารุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น พร้อมทั้งเครื่องประดับ ฯลฯ จำนวน 6 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

ขณะที่ยีนส์แบรนด์ลีวายส์ ได้ใช้กลยุทธ์การให้ส่วนลดและสิทธิพิเศษกับสมาชิกผู้ถือบัตร Levi’s Loop ที่จะได้รับคะแนนจากการซื้อสินค้า ซึ่งคะแนนมีมูลค่า 1 บาท เพื่อนำมาใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้า และได้จัดแคมเปญลีวายส์ให้โชคแจกล้านปี 2 การให้ส่วนลดเมื่อซื้อสินค้า 2 ชิ้นลด 20% ซื้อ 3 ชิ้นลด 30% นอกจากนี้ยังได้พัฒนาแอพพลิเคชัน Levi Jeanspiration ที่ใช้เป็นช่องทางการสื่อสารและการทำตลาดระหว่างแบรนด์กับลูกค้าด้วย

Photo : Pixabay
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,193 วันที่ 18 - 21 กันยายน พ.ศ. 2559