‘สตาร์บัคส์’ รุกโมเดลใหม่ร้านหรู ตอกยํ้าจุดแข็งจับคอกาแฟเป๋าหนัก
"สตาร์บัคส์" เดินหน้า รักษาผู้นำตลาดกาแฟเมืองไทย เตรียมขยายสาขาเพิ่ม 40 แห่ง พร้อมเปิดโมเดลใหม่ "สตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ เอ็กซ์พีเรียนซ์ สโตร์" เจาะตลาดพรีเมี่ยมสร้างเอกลักษณ์การแข่งขัน วางเป้าปูพรมสาขาทุกรูปแบบให้ครบ 400 แห่งในปี 2562
นายเมอร์เรย์ ดาร์ลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านกาแฟสตาร์บัคส์ เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ได้เตรียมขยายสาขาเพิ่ม 20 แห่ง จากช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ขยายสาขาไปแล้ว 20 แห่ง เป็นการขยายสาขาในรูปแบบไดร์ฟทรู 2-3 แห่ง และขยายสาขาในโมเดลใหม่ สตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ เอ็กซ์พีเรียนซ์ สโตร์ (Starbucks Reserve Experience Store ) เพื่อสร้างเอกลักษณ์และความแตกต่างให้กับแบรนด์ในการทำตลาด และเป็นการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ตามไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน แม้ว่าสาขาในรูปแบบเดิมจะเป็นโมเดลหลักที่ทำรายได้และมีศักยภาพการเติบโตมากที่สุดก็ตาม
สำหรับแนวทางการทำตลาดได้เตรียมสร้างกิจกรรมทางการตลาดทั้งออฟไลน์และ ออนไลน์ อาทิ เฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม เป็นต้น ควบคู่กับการจัดแคมเปญโปรโมชันอย่างต่อเนื่อง และมีกานำระบบสมาชิกเข้ามาใช้ในการกระตุ้นยอดขาย ปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกกว่า 6.8 แสนราย เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 23% และมากกว่า 50% ของลูกค้าสตาร์บัคส์ เป็นสมาชิก My Starbucks Reward ลอยัลตี้ โปรแกรม ของสตาร์บัคส์ และบริษัทได้นำระบบโมบายเพย์เมนต์เข้ามาใช้เพิ่มความสะดวกสบายในการซื้อเครื่องดื่มและสินค้าภายในร้านด้วย ปัจจุบันมียอดดาวน์โหลด 4.5 แสนครั้ง
นายเมอร์เรย์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทขยายสาขาใน 3 โมเดลหลัก ได้แก่ 1.รูปแบบสาขาทั่วไป ที่มีพื้นที่ 150 ตารางเมตร มีจำนวนทั้งสิ้น 228 แห่ง 2.รูปแบบไดร์ฟทรู 14 แห่ง มีพื้นที่ 300 ตารางเมตร และ3. รูปแบบสตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ เอ็กซ์พีเรียนซ์ สโตร์ จำนวน 17 แห่ง และมีเป้าหมายขยายให้ครบ 20 สาขา ซึ่งจะมีทั้งที่เป็นการขยายสาขาใหม่และทยอยปรับสาขาเดิมเพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยสาขาที่จะปรับสู่โมเดลใหม่นี้จะเป็นในทำเลที่มีศักยภาพ ผู้คนต้องการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์และกลุ่มคนทำงานที่ต้องการพักผ่อนเป็นหลัก โดยสินค้าจะมีราคาแพงกว่าร้านสตาร์บัคส์แบบเดิม 15-30%
"จากการทดลองนำร่องร้านโมเดลใหม่ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทสามารถสร้างสัดส่วนยอดขายจากสตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ เอ็กซ์พีเรียนซ์ สโตร์ ได้ที่ 10% ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยแนวทางการทำตลาดต่อจากนี้คือการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกาแฟชั้นนำจากทั่วโลกราว 12-15 ชนิดกาแฟเข้ามารองรับ ซึ่งบริษัทวางเป้าหมายการขยายสาขาจนถึงปี 2561 ไว้ที่ 300 แห่ง และเพิ่มเป็น 400 แห่งในปี 2562 จากปัจจุบันที่มีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 262 แห่ง โดยที่ผ่านมามียอดขายเครื่องดื่มเฉลี่ยภายในร้าน 3.5 ล้านแก้วต่อเดือน หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 20% ต่อเดือน"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,175 วันที่ 17 - 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2559