KEY
POINTS
นายสุรินทร์ วรกิจธำรง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการแผนกควบคุมเสียง งานกาชาดประจำปี 2568 เปิดเผยว่า คพ. ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแผนกควบคุมเสียง ได้กำหนดมาตรการการใช้เสียงภายในงาน และปฏิบัติงานตรวจวัดเสียงในระหว่างการจัดงานกาชาด ประจำปี 2568 วันที่ 11 – 21 ธันวาคม 2568 ณ สวนลุมพินี กรุงเทพฯ เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และป้องกันผลกระทบทางเสียงกับผู้เข้าร่วมงาน โรงพยาบาล และชุมชนรอบข้าง
นายสุรินทร์ กล่าวว่า สภากาชาดไทย ได้ปรับรูปแบบการจัดงานกาชาดประจำปี 2568 เพื่อให้เหมาะสมกับห้วงเวลาของการแสดงความอาลัยและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สภานายิกาสภากาชาดไทย ที่ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่ ภายใต้แนวคิด “ร้อยดวงใจปวงประชา น้อมสํานึกพระเมตตา องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย” คณะกรรมการแผนกควบคุมเสียง ได้ร่วมกันกำหนดแนวทางการควบคุมเสียงงานกาชาด
ประกอบด้วย ขอความร่วมมือหน่วยงานและร้านค้า จัดกิจกรรมแบบเรียบง่ายตามแนวคิดฯ กรณีร้านค้าที่จำหน่ายสลาก ขอความร่วมมืองดใช้ลำโพงและเครื่องขยายเสียง แต่สามารถใช้โทรโข่งหรือไมค์ติดตัวได้ กรณีร้านค้าที่มีการแสดงดนตรีให้ปรับรูปแบบ เช่น เพลงบรรเลง การแสดงเชิงศิลปวัฒนธรรม และมีระดับเสียงที่เหมาะสม
แผนกควบคุมเสียงจะจัดเจ้าหน้าที่จากกรุงเทพมหานคร (สำนักอนามัย สำนักงานเขตปทุมวัน และสำนักสิ่งแวดล้อม) และ คพ. ปฏิบัติงานเพื่อกำกับดูแลและให้คำแนะนำร้านค้า รวมทั้ง จะติดตั้งเครื่องวัดระดับเสียงภายในพื้นที่จัดงานกาชาด รวม 8 จุด พร้อมจอแสดงผล (Display Board) และรายงานข้อมูลระดับเสียงผ่านทางเว็บไซต์ www.noise4thai.net และทางแอปพลิเคชัน Sound24Thai เพื่อให้ประชาชนและร้านค้าทราบ
จากการตรวจวัดระดับเสียงภายในงานกาชาดประจำปี 2568 จำนวน 8 จุด ในระหว่างวันที่ 11-14 ธันวาคม 2568 ระหว่างเวลา 18.00 - 21.00 น. พบว่า ระดับเสียงสูงสุดมีค่า 87 เดซิเบลเอ อยู่ในระดับที่เริ่มอันตรายต่อสุขภาพ ส่วนการตรวจสอบร้านค้า
พบว่ามีร้านค้าที่ถูกร้องเรียนเสียงดัง จำนวน 4 ร้าน ซึ่งแผนกควบคุมเสียงได้แจ้งข้อกำหนดการควบคุมเสียงร้านค้าตามแนวทางการควบคุมเสียงงานกาชาด และแจ้งเตือนให้ลดเสียง ทั้งนี้ หากมีร้านค้าที่ถูกร้องเรียนซ้ำ แผนกควบคุมเสียงจะมีหนังสือแจ้งกองอำนวยการจัดงานกาชาดเพื่อพิจารณาให้ร้านค้านั้น ๆ งดใช้เสียง หรือดำเนินมาตรการอื่นใดตามที่เห็นสมควร นายสุรินทร์ กล่าว