ชายแดน ‘บุรีรัมย์’ อพยพ 1.5 หมื่นคน-รพ.กันทรลักษ์ ‘ศรีสะเกษ’ ปิดบริการ
หอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ เผยสถานการ์ชายแดนไทย-กัมพูชาตึงเครียด ล่าสุดจำนวนอพยพประชากร-บุคลากรทางการแพทย์ รวมมากกว่า 1.5 หมื่นคน ขณะที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ งดให้บริการ
KEY
POINTS
- สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์มีความตึงเครียด ส่งผลให้มีการอพยพประชาชนแล้วประมาณ 15,000 คน
- ผู้อพยพจากจังหวัดบุรีรัมย์ได้เข้าพักพิงในศูนย์อพยพหลักที่จัดตั้งขึ้น ณ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต
- ขณะเดียวกันโรงพยาบาลกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ก็ได้ประกาศงดให้บริการทุกกรณีเป็นการชั่วคราว เนื่องจากสถานการณ์ฉุกเฉิน
นางสาวพูลทรัพย์ เทพนคร ประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า รายงานสถานการณ์ล่าสุดจากจังหวัดบุรีรัมย์ ค่อนข้างมีความตึงเครียดในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ประชาชนจำนวนมากต้องเร่งอพยพออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ยอดผู้อพยพ จ. บุรีรัมย์ ตั้งแต่ช่วงคือวันที่ 7 ธ.ค.2568 จนถึงตอนนี้วันที่ 8 ธ.ค.2568 รวมประมาณ 1.5 หมื่นคน
“ผู้อพยพเข้าศูนย์อพยพสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ซึ่งเป็นศูนย์พักพิงหลักของจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อคืนประมาณ 7,000 คน และตอนนี้น่ามีมากกว่า 15,000 คน ถือว่าเกือบ 100% ตามแผนการรับมือกับสถานการณ์ที่ได้วางไว้”
ผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้สถานที่ราชการและโรงพยาบาลต่าง ๆ ในพื้นที่ติดชายแดนต้องประกาศปิดล็อกดาวน์ และงดให้บริการทั้งหมด นอกจากประชาชนทั่วไปแล้ว ยังได้อพยพบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมดออกจากพื้นที่เสี่ยงด้วย
โดยบุคลากรทางการแพทย์ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในพื้นที่โรงแรมและศูนย์พักพิงเฉพาะกิจ ที่ได้เปิดให้บริการที่พักฟรีเป็นการเฉพาะ คาดว่าการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชาในครั้งนี้น่าจะหนักกว่าครั้งที่ผ่านมา แต่อยากให้ยกระดับและทุกอย่างจบโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ยังมีประกาศอย่างเป็นทางการจาก โรงพยาบาลกันทรลักษ์ แจ้งงดให้บริการแก่ประชาชนทุกกรณี จากสถานการณ์ฉุกเฉินที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการเปิดทำการของโรงพยาบาล
โดยแนะนำให้ผู้ป่วยฉุกเฉินเดินทางไปรับบริการจากโรงพยาบาลใกล้เคียง เป็นการชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ