วิทยุการบิน เฝ้าระวังน่านฟ้า ย้ำให้ความสำคัญภารกิจของทหารเป็นอันดับแรก

08 ธ.ค. 2568 | 06:44 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ธ.ค. 2568 | 07:00 น.

สถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย – กัมพูชา วิทยุการบิน เฝ้าระวังน่านฟ้า พร้อมย้ำให้ความสำคัญกับการอำนวยการภารกิจของทหาร เป็นลำดับแรก

วันนี้ (วันที่ 8 ธันวาคม  2568) นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา หลังเกิดการปะทะกันในวันที่ 8 ธันวาคม 2568 โดยได้มอบนโยบายให้บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.)  เฝ้าระวังน่านฟ้า และอำนวยการภารกิจของทหารเป็นลำดับแรก เพื่อให้ภารกิจสำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดี

นายสุรชัย หนูพรม รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “วิทยุการบินฯ ได้ดำเนินการเพื่อรองรับสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย – กัมพูชา

ในส่วนที่ วิทยุการบินฯ รับผิดชอบ ได้แก่ การให้บริการทางอากาศสำหรับเที่ยวบินพาณิชย์ ทั้งเที่ยวบินภายในประเทศ ระหว่างประเทศ และเที่ยวบินที่บินผ่านน่านฟ้าไทย รวมถึงการประกาศให้ห้วงอากาศบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

วิทยุการบิน เฝ้าระวังน่านฟ้า ย้ำให้ความสำคัญภารกิจของทหารเป็นอันดับแรก

เป็นเขตพื้นที่ห้วงอากาศอันตราย ยังไม่มีผลกระทบ หรือการยกเลิกเที่ยวบินและเปลี่ยนแปลงเส้นทางบินแต่อย่างใด ด้านการสนับสนุนภารกิจของทหาร วิทยุการบินฯ จะบริหารจัดการห้วงอากาศ และให้บริการจราจรทางอากาศ พร้อมอำนวยความสะดวกด้านต่าง ๆ ให้กับการปฏิบัติการบินทางการทหารในทุกมิติ โดยการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอุปสรรคและผลประทบต่อเที่ยวบินพาณิชย์แต่อย่างใด

ทั้งได้ประสานงานกับกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เพื่อยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยสนามบิน โดยได้กำหนดมาตรการป้องกัน เฝ้าระวัง ตรวจตรา และติดตามการบินโดรนผิดกฎหมายรุกล้ำเข้าพื้นที่ของท่าอากาศยาน หากมีการรายงานพบเห็นโดรนรุกล้ำเข้าพื้นที่สนามบิน จะแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานและหน่วยงานด้านความมั่นคงเพื่อเข้าดำเนินการตามขั้นตอนทันที

วิทยุการบิน เฝ้าระวังน่านฟ้า ย้ำให้ความสำคัญภารกิจของทหารเป็นอันดับแรก

พร้อมทั้งได้เน้นย้ำวิธีปฏิบัติการให้บริการจราจรอากาศ ให้ตรวจสอบแนวร่อนลง และแนวการวิ่งขึ้น ของอากาศยาน โดยละเอียด ก่อนให้คำอนุญาตในการขึ้นและลงแก่อากาศยาน และให้ปฏิบัติตามวิธีปฏิบัติที่กำหนดโดยเคร่งครัด สำหรับการจัดอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

วิทยุการบินฯ ได้จัดเข้าปฏิบัติหน้าที่ให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินอันอาจจะเกิดขึ้นไว้ตลอดเวลา และยังได้ให้ทุกหน่วยเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ให้กำกับดูแลการปฏิบัติงานให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมรายงานสถานการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้นให้กับผู้บังคับบัญชาทราบทุกระยะ

วิทยุการบิน เฝ้าระวังน่านฟ้า ย้ำให้ความสำคัญภารกิจของทหารเป็นอันดับแรก

โดยวิทยุการบินฯ ยังคงติดตามสถานการณ์และประสานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงอย่างใกล้ชิด พร้อมให้บริการการจราจรทางอากาศเที่ยวบินพาณิชย์ให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด และสนับสนุนภารกิจด้านความมั่นคงอย่างเต็มกำลัง ตามนโยบายของรัฐบาลและเตรียมแผนรองรับหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน”