รัฐบาลญี่ปุ่นมอบชุดบรรเทาทุกข์ 7.1 ล้านบาท ส่งช่วยน้ำท่วมใต้

02 ธ.ค. 2568 | 05:42 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ธ.ค. 2568 | 05:49 น.

นายกฯ รับมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์จากรัฐบาลญี่ปุ่นผ่าน JICA สนับสนุนภารกิจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ ประกอบด้วยเต็นท์–ผ้าห่ม–แผ่นรองนอน–เครื่องกรองน้ำ มูลค่ากว่า 7.1 ล้านบาท

KEY

POINTS

  • รัฐบาลญี่ปุ่นผ่านองค์การ JICA มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์มูลค่ารวม 7.1 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
  • สิ่งของที่ได้รับมอบประกอบด้วยเครื่องอุปโภคที่จำเป็น อาทิ เต็นท์ แผ่นรองนอน ผ้าห่ม ถังเก็บน้ำ และเครื่องกรองน้ำ
  • ความช่วยเหลือดังกล่าวสะท้อนถึงความสัมพันธ์ฉันมิตรที่แน่นแฟ้นระหว่างไทยและญี่ปุ่น ซึ่งช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามยากลำบากมาโดยตลอด

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้พบหารือกับนายโอตากะ มาซาโตะ (H.E. Mr. OTAKA Masato) เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย

ในโอกาสฝ่ายญี่ปุ่นส่งมอบสิ่งของบรรเทาความเดือดร้อนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลญี่ปุ่น ผ่านองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency : JICA)

พิธีรับมอบมีผู้แทนระดับสูงเข้าร่วม อาทิ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง, นายอัครุตม์ สนธยานนท์ อธิบดีกรมธนารักษ์, น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นางชนิดา เกษมศุข รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร, นางจินดารัตน์ วิริยะทวีกุล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สบน. และ นายซุนซูเกะ ซากุโด หัวหน้าสำนักงาน JICA ประจำประเทศไทย

                                รัฐบาลญี่ปุ่นมอบชุดบรรเทาทุกข์ 7.1 ล้านบาท ส่งช่วยน้ำท่วมใต้

สำหรับ สิ่งของบรรเทาทุกข์ที่ได้รับมอบ ประกอบด้วย

เต็นท์ขนาดใหญ่ จำนวน 150 หลัง

แผ่นรองนอน จำนวน 3,000 ผืน

ผ้าห่ม จำนวน 3,000 ผืน

ผ้าพลาสติกกันน้ำ จำนวน 150 ผืน

ถังน้ำพลาสติกสำหรับเก็บน้ำสะอาด จำนวน 500 ใบ

เครื่องกรองน้ำ จำนวน 20 เครื่อง สามารถผลิตน้ำดื่มสะอาดได้ นาทีละ 4 ลิตร

รวมมูลค่าความช่วยเหลือทั้งสิ้นประมาณ 7.1 ล้านบาท โดยทั้งหมดจะถูกส่งต่อไปยัง ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือเครือข่ายวายุภักษ์ กระทรวงการคลัง เพื่อกระจายความช่วยเหลือไปยังผู้ประสบภัยในพื้นที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และพื้นที่ใกล้เคียงทันที

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในนามของรัฐบาลและประชาชนชาวไทย แสดงความซาบซึ้งและขอบคุณอย่างสูงต่อรัฐบาลญี่ปุ่น สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และ JICA สำหรับการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน พร้อมชื่นชมความรวดเร็วและความจริงใจของฝ่ายญี่ปุ่น

“ความช่วยเหลือครั้งนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น และความไว้วางใจกันที่มีมาอย่างยาวนานระหว่างสองประเทศ ไทยและญี่ปุ่นต่างยืนเคียงข้างกันมาโดยตลอดในยามยากลำบาก”

                        รัฐบาลญี่ปุ่นมอบชุดบรรเทาทุกข์ 7.1 ล้านบาท ส่งช่วยน้ำท่วมใต้

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า สิ่งของทั้งหมดจะถูกเร่งส่งต่อถึงพื้นที่ประสบภัยอย่างทั่วถึงและเร็วที่สุด เพื่อให้ผู้เดือดร้อนได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที 
พร้อมกันนี้รัฐบาลจะเดินหน้าพัฒนา ระบบเตรียมความพร้อมด้านการจัดการภัยพิบัติในทุกมิติ ควบคู่การจัดทำมาตรการเชิงป้องกันระยะยาว ให้ระบบการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินมีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถรองรับสถานการณ์ความเสี่ยงในอนาคตได้อย่างยั่งยืน และลดผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด

ด้านเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น กล่าวย้ำว่า ไทยและญี่ปุ่นเป็นมิตรประเทศที่ยืนเคียงข้างกันมาเสมอในยามเผชิญความยากลำบาก ความช่วยเหลือครั้งนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของมิตรภาพและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันระหว่างสองประเทศ

“ประชาชนชาวญี่ปุ่นยังคงจดจำความช่วยเหลืออย่างอบอุ่นที่ประเทศไทยได้มอบให้กับญี่ปุ่นในอดีต ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ญี่ปุ่นจะได้ส่งต่อน้ำใจกลับมายังประเทศไทย”

พร้อมแสดงความหวังว่า สิ่งของบรรเทาทุกข์ทั้งหมดจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยได้อย่างแท้จริง และขออวยพรให้ประชาชนในพื้นที่ฟื้นตัวจากวิกฤติครั้งนี้โดยเร็ว โดยย้ำว่า ประเทศญี่ปุ่นจะยังคงยืนเคียงข้างประเทศไทยต่อไปในทุกสถานการณ์

ขณะที่ หัวหน้าสำนักงาน JICA ประจำประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยและญี่ปุ่นได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกันมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อาทิ ความช่วยเหลือของไทยต่อเหตุ แผ่นดินไหวคุมาโมโตะ และสึนามิโทโฮคุ ขณะที่ญี่ปุ่นเคยสนับสนุนไทยในเหตุ สึนามิ ปี 2547 และ มหาอุทกภัย ปี 2554

“สิ่งเหล่านี้สะท้อนความหมายที่แท้จริงของคำว่า มิตรภาพ — เมื่อเพื่อนประสบปัญหา เราจะไม่ทอดทิ้งกัน”

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง พร้อมย้ำว่า น้ำใจจากรัฐบาลและประชาชนญี่ปุ่นในครั้งนี้จะอยู่ในความทรงจำของชาวไทย และเป็นหลักฐานชัดเจนว่า ความสัมพันธ์ไทย–ญี่ปุ่นไม่ได้เป็นเพียงทางการทูต หากแต่เป็นมิตรภาพที่พร้อมจับมือกันฝ่าวิกฤติในทุกยามจำเป็นอย่างแท้จริง