ปภ. เปิดแผน 'โซนนิ่งหาดใหญ่'! ระดม 8 ศูนย์ ปภ. ทั่วประเทศ ช่วยน้ำท่วมภาคใต้

26 พ.ย. 2568 | 08:32 น.
อัปเดตล่าสุด :26 พ.ย. 2568 | 08:38 น.

ปภ. เปิดแผน 'โซนนิ่งหาดใหญ่'! ระดม 8 ศูนย์ ปภ. ทั่วประเทศ ระดมอัดฉีดเครื่องจักร-KA-32 ลุยฝั่งตะวันตกคลองอู่ตะเภา

KEY

POINTS

  • ปภ. ระดมกำลังและเครื่องจักรกลจาก 8 ศูนย์ทั่วประเทศเข้าช่วยเหลือสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ โดยเน้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
  • มีการวางแผนแบ่งพื้นที่ปฏิบัติการ (Zoning) ในหาดใหญ่ เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรให้คล่องตัว โดย ปภ. รับผิดชอบพื้นที่ฝั่งตะวันตกของคลองอู่ตะเภาและคลอง ร.1
  • สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยหลายประเภท เช่น เรือท้องแบน รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย และเฮลิคอปเตอร์ KA-32
  • ขยายคู่สายด่วน 1784 เพิ่ม 60 คู่สาย และทำงานร่วมกับสายด่วน 1111 เพื่อเร่งส่งต่อความช่วยเหลือไปยังผู้ประสบภัย

วันนี้ 26 พฤศจิกายน 2568 นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากที่ได้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้หลายพื้นที่ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ระดมสรรพกำลังและทรัพยากรเครื่องจักรกลสาธารณภัยจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต จาก 8 ศูนย์ ปภ. เขต ทั่วประเทศ เข้าสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ประสบภัย ประกอบด้วย

  • ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 3 ปราจีนบุรี
  • เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์
  • เขต 5 นครราชสีมา
  • เขต 8 กำแพงเพชร
  • เขต 10 ลำปาง
  • เขต 13 อุบลราชธานี
  • เขต 14 อุดรธานี
  • และเขต 15 เชียงราย

การระดมทรัพยากร: ปภ. ระดมกำลังจาก 8 ศูนย์ ปภ. เขต ทั่วประเทศ (เช่น ปราจีนบุรี, นครราชสีมา, เชียงราย) เข้าสนับสนุนพื้นที่ภาคใต้

เครื่องจักรกล: สนับสนุน เรือท้องแบน 13 ลำ, รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย 14 คัน, รถผลิตน้ำดื่ม/โรงครัว และ เฮลิคอปเตอร์ KA-32 จำนวน 2 ลำ (เพิ่มเติม 1 ลำ)

ปภ. เปิดแผน 'โซนนิ่งหาดใหญ่'! ระดม 8 ศูนย์ ปภ. ทั่วประเทศ อัดฉีดเครื่องจักร-KA-32 ลุยฝั่งตะวันตกคลองอู่ตะเภ

แผน Zoning: มีการแบ่งพื้นที่ปฏิบัติการ (Zoning) โดย ปภ. รับผิดชอบพื้นที่ ฝั่งตะวันตกของคลองอู่ตะเภาและคลอง ร.1 (รวมถึงพื้นที่เทศบาลนครหาดใหญ่บางส่วน) เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรคล่องตัว

การขยายคู่สาย Hotline: ปภ. ขยายคู่สาย 1784 เพิ่มอีก 60 คู่สาย และบูรณาการข้อมูลร่วมกับสายด่วน 1111 ของรัฐบาล เพื่อคัดกรองและส่งต่อเคสขอความช่วยเหลือ (วิกฤติ/ติดค้าง) ไปยังหน่วยปฏิบัติการส่วนหน้าอย่างรวดเร็ว.