ปภ. เตือนปชช.พร้อมรับมือ อากาศหนาว-น้ำท่วมฉับพลัน 17-23 พ.ย.นี้

16 พ.ย. 2568 | 12:50 น.

ปภ. แจ้งเตือนประชาชนเตรียมรับมือสภาพอากาศแปรปรวน 'เหนือ-อีสาน-กลาง' อุณหภูมิลดลง 2-7 องศาเซลเซียส ภาคใต้ 13 จังหวัด เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง ดินโคลนถล่ม 17-23 พ.ย.นี้

16 พฤศจิกายน 2568 ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง เตรียมรับมืออุณหภูมิลดลง ส่วน 13 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ให้เฝ้าระวังและรับมือสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง ดินโคลนถล่ม

สำหรับ 7 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 17 - 23 พ.ย. 68 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้และให้คำแนะนำประชาชนในการดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่อุณหภูมิลดลง

ส่วนพื้นที่ที่เฝ้าระะวังสถานการณ์อุทกภัย ให้จัดทีมปฏิบัติการและนำเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย โดยเฉพาะพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมบ่อยครั้ง

สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนการเดินเรือ และเดินเรือด้วยความระมัดระวัง รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนปฏิบัติตามประกาศแจ้งเตือนภัยจากทางราชการอย่างเคร่งครัด

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยา ได้มีประกาศฉบับที่ 3 (342/2568) เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ระบุว่า

ในช่วงวันที่ 17 - 23 พฤศจิกายน 2568 ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศแปรปรวน โดยจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงและมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีสมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 4 - 7 องศาเซลเซียส

ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุม อ่าวไทย และภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น

ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร จึงขอแจ้งพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ดังนี้

พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์อุณหภูมิลดลง ระหว่างวันที่ 17 - 23 พฤศจิกายน 2568 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง

พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินโคลนถล่ม ระหว่างวันที่ 17 - 23 พ.ย.68 แยกเป็น

-ภาคกลาง 2 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์

-ภาคใต้ 13 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, พัทลุง, สงขลา, ปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส, ระนอง, พังงา, กระบี่, ตรัง และสตูล

พื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ระหว่างวันที่ 19 - 23 พฤศจิกายน 2568

-ภาคใต้ 7 จังหวัด ได้แก่ 

  • ประจวบคีรีขันธ์ (ทุกอำเภอ)
  • ชุมพร (อ.เมืองชุมพร อ.ปะทิว อ.สวี อ.ทุ่งตะโก อ.หลังสวน และอ.ละแม)
  • สุราษฎร์ธานี (อ.เมืองสุราษฎร์ธานี อ.ไชยา อ.ท่าชนะ อ.ท่าฉาง อ.พุนพิน อ.ดอนสัก อ.กาญจนดิษฐ์ อ.เกาะสมุย และอ.เกาะพะงัน)
  • นครศรีธรรมราช (อ.เมืองนครศรีธรรมราช อ.ขนอม อ.สิชล อ.ท่าศาลา อ.ปากพนัง และอ.หัวไทร)
  • สงขลา (อ.เมืองสงขลา อ.ระโนด อ.กระแสสินธุ์ อ.สทิงพระ อ.สิงหนคร อ.จะนะ และอ.เทพา)
  • ปัตตานี (อ.เมืองปัตตานี อ.หนองจิก อ.ยะหริ่ง อ.ปะนาเระ อ.สายบุรี และอ.ไม้แก่น)
  • นราธิวาส (อ.เมืองนราชิวาส และอ.ตากใบ)

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง เตรียมพร้อมรับมืออากาศหนาวถึงหนาวจัด โดยประชาสัมพันธ์และให้คำแนะนำสร้างการรับรู้แก่ประชาชนในการดูแลรักษาสุขภาพจากอุณหภูมิที่ลดลง

ส่วนจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และพื้นที่ภาคใต้ 13 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และจังหวัดสตูล เตรียมรับมือสถานการณ์ภัยติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่แต่ละจุดอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ใน 24 ชั่วโมง

พื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมบ่อยครั้ง เพื่อลดผลกระทบจากเหตุอุทกภัยให้ได้มากที่สุด สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีฝนตกหนักมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นห้ามเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยตลอด 24 ชั่วโมง

ในกรณีที่มีคลื่นลมแรง โดยเฉพาะ 7 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ขอให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกประกาศหรือติดตั้งสัญญาณแจ้งเตือนบริเวณชายฝั่งทะเล ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำทะเลโดยเด็ดขาด และให้แจ้งชาวเรือ ผู้บังคับเรือ และผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง ให้พิจารณาห้ามเดินเรือเด็ดขาด

พร้อมกันนี้ ได้ประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง และพร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีหากเกิดสถานการณ์ขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง

ขอให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด