วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 เวลา 17.00 น.กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฯฉบับที่ 3 เรื่อง พายุ “คัลแมกี”และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย
เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันนี้ (5 พ.ย. 68) พายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” (KALMAEGI) บริเวณทะเลจีนใต้ มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 12.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 117.3 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 139 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 14 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า พายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 6-7 พ.ย. 68 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและพายุดีเปรสชันเคลื่อนผ่านประเทศลาว โดยในวันที่ 7 พ.ย. 68 จะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ
จากอิทธิพลของพายุ “คัลแมกี” ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 7–9 พ.ย. 68 ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนัก ถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยจะเริ่มจากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตามลำดับ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 6–7 พ.ย. 68
ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา หรือโทร 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปในวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 เวลา 23.00 น.
รายชื่อพื้นที่เสี่ยงจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักมาก (ปริมาณตั้งแต่ 90.0 มิลลิเมตรขึ้นไป)
วันที่ 7 พ.ย.68
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ -จังหวัดอุบลราชธานี บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา
รายชื่อพื้นที่เสี่ยงจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก (ปริมาณตั้งแต่ 35.1 ถึง 90.0 มิลลิเมตรขึ้นไป)
วันที่ 7 พ.ย.68
- ภาคเหนือ -จังหวัดอุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก ตาก
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ -จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ขอนแก่น ชัยภูมิ
- ภาคกลาง-จังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม สมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
- ภาคตะวันออก -จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด
- ภาคใต้-จังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล
วันที่ 8 พ.ย.68
- ภาคเหนือ -จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ตาก
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ -จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร
- ภาคกลาง-จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
วันที่ 9 พ.ย.68
- ภาคเหนือ -จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ สุโขทัย กำแพงเพชร
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ -จังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย
อนึ่ง กรมอุตุนิยมวิทยา ได้รายงานลักษณะอากาศทั่วไปวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 (พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า) บริเวณภาคใต้มีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และพังงา ส่วนประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อย เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนบน อ่าวไทย และภาคตะวันออก เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนล่าง
ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้เกษตรกรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนตก รวมถึงระวังอันตรายจากฝนตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมได้ในบางพื้นที่
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 18:00 น. วันนี้ ถึง 18:00 น. วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ
- อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝน ร้อยละ 20 ของพื้นที่
- ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และลำพูน
- อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
- บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-14 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
- อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส
- บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคกลาง
- มีฝน ร้อยละ 10 ของพื้นที่
- ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม
- อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
- มีฝน ร้อยละ 20 ของพื้นที่
- ส่วนมากบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
- อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
- มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
- บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
- อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
- บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
- มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
- บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
- อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพและปริมณฑล
- มีฝน ร้อยละ 20 ของพื้นที่
- อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.