หั่นงบผลิตสื่อโฆษณากว่า20% ผันเงินสู่ออนไลน์/ อินสปายดิ้นหาลูกค้าเพิ่มควบคู่รุกตปท.

26 มิ.ย. 2559 | 08:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

อินสปาย ชี้แบรนด์ตัดงบผลิตสื่อส่งเสริมการขายเทเงินสู่สื่อดิจิตอลกว่า 20% ต้องเร่งหาลูกค้าเพิ่ม คาดสิ้นปีมีรายได้ 140 ล้าน มองตลาดต่างประเทศยังสดใสคาด 3-5 ปีสัดส่วนรายได้ขยับเพิ่มเป็น 20-30%

นายพิเชฐ หลักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินสปาย อิมเมจ จำกัด ผู้ผลิตสื่อโฆษณาภายใต้เครืออินเด็กซ์ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่ค่อนข้างชะลอตัว ประกอบกับสื่อใหม่ที่เข้ามาเพิ่มมากขึ้น อาทิ สื่อออนไลน์ สื่อดิจิตอล อื่นๆ ส่งผลให้ช่วงที่ผ่านมาตลาดสื่ออินสโตร์ได้รับผลกระทบและมีมูลค่าการใช้สื่อโฆษณาประเภทนี้ลดลงกว่า 20% ขณะที่บริษัทได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันโดยในช่วงที่ผ่านมาลูกค้าที่เข้ามาสั่งผลิตสื่อโฆษณาลดงบประมาณลงกว่า 20-30% ซึ่งส่วนใหญ่ใช้งบประมาณอย่างจำกัด

“สภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลให้ลูกค้าหรือแบรนด์ต่างๆ ตัดงบประมาณการผลิตสื่อโฆษณาเพื่อส่งเสริมการขายลงกว่า 20% แล้วนำงบดังกล่าวไปใช้กับสื่อประเภทอื่นๆแทน เช่น สื่อออนไลน์ สื่อดิจิตอล เป็นต้น ดังนั้นในปีนี้บริษัทจึงต้องทำงานหนักมากกว่าทุกปี พร้อมทั้งต้องเดินหน้าหาลูกค้ารายใหม่ๆให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ”

สำหรับแผนธุรกิจปีนี้จะเน้นการขยายงานทั้งในและต่างประเทศ โดยตลาดในประเทศจะหาลูกค้ารายใหม่ อาทิ ร้านอาหาร ยานยนตร์ กลุ่มโทรศัพท์ อาคารสำนักงานต่างๆ และอื่นๆ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ผลิตสื่อโฆษณาตามจุดอาคารต่างๆ เช่น ธนาคารกสิกรไทย เป็นต้น ขณะเดียวกันด้านแผนธุรกิจต่างประเทศช่วงที่ผ่านมาได้มีโอกาสจัดบูทงาน Architect & Decor ที่ประเทศกัมพูชา และเมียนมา ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการประเทศดังกล่าวจำนวนมาก

“แม้ในตลาดประเทศกัมพูชา และเมียนมา จะมีผู้ผลิตสื่อโฆษณาอยู่บ้างแต่บริษัทไม่กังวล เนื่องจากเชื่อว่าการผลิตสื่อโฆษณาที่มีคุณภาพของอินสปาย จะได้รับความสนใจจากแบรนด์ต่างๆ เพราะสื่อที่มีคุณภาพจะแสดงถึงภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ อีกทั้งที่ผ่านมาบริษัทมีลูกค้ารายใหม่ทั้งแบรนด์ท้องถิ่นและแบรนด์อินเตอร์ที่เข้าไปขยายธุรกิจในประเทศดังกล่าวจำนวนมาก ดังนั้นบริษัทเชื่อว่าการผลิตงานสื่อที่มีคุณภาพประกอบกับเทคโนโลยีการพิมพ์ที่รวดเร็ว เช่น เครื่องพิมพ์สามารถพิมพ์สื่อได้ประมาณ 400 ตรม.ต่อชั่วโมง เป็นต้น จะช่วยให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการงานต่อเนื่อง”

ขณะเดียวกันสภาพเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตของประเทศเมียนมา ส่งผลให้ภาพรวมของสื่อโฆษณาเติบโตด้วยเช่นกัน อาทิ ป้ายบิลบอร์ด สื่อทรานซิท และอินสโตร์ เป็นต้น อีกทั้งที่ผ่านมาภาครัฐยังได้ให้ใบอนุญาตให้มีการก่อสร้างอาคารได้ 700 อาคาร ดังนั้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ และสื่อโฆษณาจะเติบโตเพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน หรือมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยเพิ่มขึ้นทุกปี 1 เท่าตัว

อย่างไรก็ตามช่วงสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีรายได้กว่า 140 ล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนมีรายได้รวม 120 ล้านบาทโดยแบ่งสัดส่วนรายได้ในประเทศเป็น 90% และต่างประเทศ 10% ขณะเดียวกันหลังจากขยายงานไปตลาดต่างประเทศมากขึ้น จะส่งผลให้บริษัทมีรายได้ในช่วง 3-5ปีกลุ่มรายได้จากตลาดต่างประเทศจะมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 20-30% และในประเทศคงเหลือ 70-80% นอกจากนี้ในด้านภาพรวมของตลาดสื่อในประเทศช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทเชื่อว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นโดยปัจจัยมาจากนักการตลาดใช้เงินมากขึ้นเพื่ออัดโปรโมชั่นส่งเสริมแบรนด์และการขาย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,168 วันที่ 23 - 25 มิถุนายน พ.ศ. 2559