‘รฟม.’ ลุยถมทราย แก้ถนนสามเสนทรุดตัว ‘รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้’

18 ต.ค. 2568 | 02:51 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ต.ค. 2568 | 03:03 น.

“รฟม.” กางแผนคืบหน้าถมทรายแล้ว 8,200 ลบ.ม. เร่งแก้ปัญหาถนนสามเสนทรุดตัว หน้ารพ.วชิรพยาบาล เตรียมถมหินคลุก หวังคืนสภาพปกติโดยเร็ว

KEY

POINTS

  • รฟม. เร่งแก้ไขเหตุถนนสามเสนทรุดตัวบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ซึ่งเป็นพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้
  • ผู้รับจ้างได้ดำเนินการปรับปรุงคุณภาพดินและถมทรายไปแล้วกว่า 8,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อเสริมเสถียรภาพของดิน
  • ปัจจุบันระดับพื้นผิวต่ำกว่าเดิม 85 ซม. และกำลังเร่งเคลียร์พื้นที่เพื่อปรับระดับด้วยหินคลุก และเปิดทางเข้าออกให้โรงพยาบาลฯ ต่อไป
  • รฟม. ยืนยันความปลอดภัย โดยตรวจสอบอาคารข้างเคียง เช่น สถานีตำรวจนครบาลสามเสน ไม่พบการเคลื่อนตัวที่ผิดปกติ

รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการแก้ไขซ่อมแซมเหตุการณ์ถนนสามเสนทรุดตัว บริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ซึ่งเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) 

ทั้งนี้ผู้รับจ้างงานโยธาของโครงการฯ ได้ดำเนินการปรับปรุงคุณภาพดินเพื่อเสริมเสถียรภาพของดินภายในบริเวณหลุมยุบและถมทรายไปแล้วประมาณ 8,286 ลูกบาศก์เมตร (ปริมาตรทรายถมระหว่างวันที่ 14 – 17 ตุลาคม 2568) 

ในปัจจุบันระดับพื้นผิวบริเวณจุดเกิดเหตุ อยู่ต่ำกว่าระดับผิวจราจรเดิมประมาณ 85 เซนติเมตร ซึ่งโครงการฯ ได้กำลังเคลียร์พื้นที่ เก็บเศษวัสดุต่างๆ ที่กีดขวางออกและทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบก่อนจะทำการปรับระดับพื้นที่ด้วยการถมหินคลุกหนาประมาณ 50 เซนติเมตรและเร่งเปิดช่องทางเข้าออกให้โรงพยาบาลวชิรพยาบาลต่อไป

‘รฟม.’ ลุยถมทราย แก้ถนนสามเสนทรุดตัว ‘รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้’

รายงานข่าวจากรฟม.กล่าวต่อว่า รฟม. ยังคงกวดขันมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยเฝ้าระวัง ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินสภาพโครงสร้างของอาคารสำคัญในบริเวณใกล้เคียงอย่างต่อเนื่อง 
 

ส่วนอาคารสถานีตำรวจนครบาลสามเสน และอาคารแฟลตตำรวจ และพื้นที่โดยรอบ ซึ่งพบว่าไม่มีการเคลื่อนตัวใดๆ ที่มีนัยสำคัญทางวิศวกรรม ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวมีความปลอดภัย

‘รฟม.’ ลุยถมทราย แก้ถนนสามเสนทรุดตัว ‘รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้’

อย่างไรก็ดีรฟม. มุ่งมั่นที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วยความรวดเร็วและมีความปลอดภัยต่อประชาชนและผู้ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งคืนสภาพให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว