KEY
POINTS
4 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิชัย อร่ามศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ได้ประกาศแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนอาศัยริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ จ.นนทบุรี เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูง และเพิ่มปริมาณการปล่อยน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา
ทั้งนี้ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นนทบุรี ได้ติดตามสภาวะอากาศ และพิจารณาปัจจัยเสี่ยง กอปรกับกรมชลประทานได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ กษ 0328/ว 10415 ได้คาดการณ์ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C.2 อำเภอเมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ ประมาณ 2,700-2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ในช่วงวันที่ 1-9 ตุลาคม 2568 โดยจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น และคาดการณ์ว่า แม่น้ำสะแกกรังมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ Ct19 จ.อุทัยธานี และลำน้ำสาขา รวมอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 180 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยใช้พื้นที่ว่างเหนือเขื่อนเจ้าพระยาชะลอน้ำไว้
รวมทั้งตัดยอดน้ำเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำทั้งสองฝั่ง แบ่งรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งรวมจำนวน 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากสถานการณ์ดังกล่าว จึงปรับเพิ่มปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจากเดิมไม่เกิน 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นไม่เกิน 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แบบขั้นบันได ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำและคลองสาขาต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 0.10- 0.40 เมตร
โดยเฉพาะช่วงเวลาน้ำทะเลหนุนสูงในวันที่ 3-7 , 9-13 และวันที่ 23-27 ตุลาคม 2568 ล่าสุดวันที่ 3 ตุลาคม 2568 มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ที่ 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไหลผ่านมาถึงสถานี C 29 B วัดกร่าง อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ที่ 2,517 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้น ที่อาจจะส่งผลกระทบในพื้นที่ จ.นนทบุรี
ส่วนที่ริมเขื่อนท่าน้ำนนทบุรี เทศบาลนครนนทบุรี ได้นำกระสอบทรายมาวางเรียงเป็นแนวยาว ความสูง 1 เมตร เพื่อป้องกันน้ำทะเลที่จะหนุนสูง และติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เพื่อสูบน้ำที่เอ่อล้น ไม่ให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ