นายกฯเล็งทำประชามติปมยกเลิก MOU43-44 ยันบรรจุไว้ในนโยบาย

26 ก.ย. 2568 | 10:35 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ก.ย. 2568 | 10:35 น.

อนุทินเล็งทำประชามติปมยกเลิก MOU43-44 ยันบรรจุไว้ในนโยบายเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งเพิ่ม ย้ำไม่เปิดด่านชายแดน จนกว่าเหตุตึงเครียดยุติ

KEY

POINTS

  • นายกรัฐมนตรีอนุทินยืนยันว่าประเด็นการยกเลิก MOU 43-44 ได้ถูกบรรจุไว้ในนโยบายของรัฐบาลแล้ว
  • รัฐบาลเตรียมเสนอให้มีการทำประชามติในเรื่องการยกเลิก MOU 43-44 เพื่อป้องกันความขัดแย้งและความเห็นต่าง
  • มอบหมายให้กองทัพเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียด และให้อำนาจเต็มที่ในการตัดสินใจและดูแลสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงประเด็นเรื่องการยกเลิก MOU 43-44 ว่า เป็นเรื่องที่บุรรจุไว้ในนโยบายเพื่อไม่ให้เกิดข้อแย้งเพิ่มขึ้นมาอีก ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาเรื่องนี้อยู่แล้ว 

ขณะที่ในส่วนของรัฐบาลจะเสนอให้ทำประชามติ เพราะไม่ต้องการให้มีความเห็นต่างใด ๆ ส่วนรายละเอียดขอให้กองทัพเป็นผู้ชี้แจง

ส่วนการดำเนินทางการทูตนั้น ได้มอบนโยบายให้นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ที่มีความเชี่ยวชาญทางการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ บริหารจัดการอย่างรอบคอบ ทั้งมิติการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน หรือการบริหารสถานการณ์ที่มีความขัดแย้ง 

โดยการตัดสินใจจะพิจารณาตามความเหมาะสมเป็นระยะ ๆ ขณะนี้ ยังไม่ถึงเวลาที่จะประกาศใช้มาตรการเพิ่มเติม

นายอนุทิน ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาด้วยว่า ขณะนี้ยังคงมีความพยายามยั่วยุในพื้นที่ชายแดนอยู่เป็นระยะ อย่างไรก็ตาม กองทัพไทยมีความอดทนและพร้อมปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างเต็มที่ 

 

และยืนยันว่ารัฐบาลให้กองทัพตัดสินใจ โดยรัฐบาลได้ยืนยันท่าทีต่อพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยกลาโหม

ด้านการเปิดด่านชายแดนยังไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกว่าสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนจะยุติลง

“การรักษาดินแดน การปกป้องอธิปไตย และการดูแลความปลอดภัยของประเทศและประชาชน ถือเป็นอำนาจและความรับผิดชอบโดยตรงของกองทัพ รัฐบาลได้ให้อำนาจอย่างเต็มที่”