‘รมว.อุตฯคนใหม่’ ลุย Quick win หนุนโรงงานดี-จัดการเอสเอ็มอีปลอม

26 ก.ย. 2568 | 04:34 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ก.ย. 2568 | 04:34 น.

‘ธนกร วังบุญคงชนะ’ รมว.อุตสาหกรรมคนใหม่เดินหน้าลุยนโยบาย Quick win หนุนโรงงานดี-จัดการเอสเอ็มอีปลอม สานต่อนโยบายที่ดีเอกนัฏ

KEY

POINTS

  • รมว. อุตสาหกรรมคนใหม่เตรียมออกมาตรการ Quick Win เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการอย่างเร่งด่วน ทั้งด้านสภาพคล่อง ปัญหาหนี้สิน และป้องกันสินค้านำเข้า
  • ส่งเสริมนโยบายโรงงานดีที่อยู่ร่วมกับชุมชนได้ พร้อมจัดการโรงงานที่สร้างปัญหาสิ่งแวดล้อมและทำลายเศรษฐกิจอย่างเด็ดขาด
  • มุ่งช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ตัวจริง โดยจะเข้าไปตรวจสอบและจัดการปัญหา "เอสเอ็มอีปลอม" ที่บริษัทใหญ่ตั้งขึ้นเพื่อรับสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สิ่งหนึ่งที่ตั้งใจทำก่อนที่รัฐบาลจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภาคือการมาตรการออกมาอย่างรวดเร็ว หรือควิกวิน (Quick win) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเป็นลำดับแรก เช่น การเสริมสภาพคล่อง การแก้ปัญหาหนี้ต่างๆ รวมไปถึงการป้องกันสินค้าสวมสิทธิ์ และสินค้าทะลักเข้าไทยจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีนที่ปัจจุบันมีเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องมีมาตรการในการป้องกัน และคุมเข้มเรื่องดังกล่าวนี้

นอกจากนี้ โรงงานอุตสาหกรรมที่ดีก็จะต้องส่งเสริม แต่โรงงานอุตสาหกรรมที่มีปัญหา ทำลายเศรษฐกิจของประเทศ และมีปัญหาก็ต้องเด็ดขาด เพราะภาคอุตสาหกรรมต้องอยู่กับชุมชน ไม่ใช่ว่าลงทุนอย่างเดียวแล้วสร้างปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยไม่สนใจชุมชน นี่คือสิ่งสำคัญ

ขณะที่ในระยะยาว จะต้องมีการพัฒนาอุตสาหกรรมเพื่อนาคต โดยได้มีการเตรียมดำเนินการไว้แล้ว เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) ส่วนนโยบายที่ถูกวางไว้ดีอยู่แล้วจากนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรมคนเดิมก็จะสานต่อ 

‘รมว.อุตฯคนใหม่’ ลุย Quick win หนุนโรงงานดี-จัดการเอสเอ็มอีปลอม

“ใน 4 เดือนอย่างน้อยที่สุดอุตสาหกรรมจะต้องดีขึ้น โดยเฉพาะเรื่องเอสเอ็มอี (SMEs) ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจุบันกลุ่มดังกล่าวค่อนข้างลำบาก การเข้าถึงแหล่งทุนค่อนข้างยาก ซึ่งสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือ การให้แต้มต่อเอสเอ็มอี โดยต้องไปดูว่าที่ผ่านมา มีเอสเอ็มอีปลอมจากการที่บริษัทใหญ่ตั้งขึ้นมา เพื่อต้องการแต้มต่อจากรัฐบาล ก็จะเข้าไปดู ต้องช่วยเอสเอ็มอีที่แท้จริง”

นายธนกร กล่าวต่อไปอีกว่า ตนมาในช่วงสั้น 4 เดือน ดังนั้นจะทำงานทุกวัน จะพยายามลงพื้นที่ให้มากที่สุด เพื่อช่วยเหลือประชาชน เพราะปัจจุบันต้องยอมรับว่านอกจากเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เรื่องเศรษฐกิจปากท้องสำคัญมาก ดังนั้น ภาคอุตสาหกรรมจะต้องมีส่วนในการช่วยขับเคลื่อนด้วย

อย่างไรก็ดี นโยบายที่จะดำเนินการต้องสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อสภาฯวันที่ 29-30 ก.ย. 68 โดยจะมุ่งเน้นทำ 1-2 เรื่อง โดยเรื่องที่ดีแล้ว เช่น การคุมเข้มโรงงานอุตสาหกรรมที่ผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินเด็ดขาดไม่มีเว้น

“ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า โดยเฉพาะผู้ประกอบการต่างๆ อุตสาหกรรมค่อนข้างมีปัญหามาก ดังนั้น สิ่งที่ต้องดำเนินการแบบควิกวินคือการช่วยเหลือผู้ประกอบการเป็นลำดับแรก”