วันที่ 12 กันยายน 2568 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้รับแจ้งจากกรมชลประทานว่า เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 ที่สถานี C.2 อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 2,067 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ระดับ +16.69 ม.-รทก. ระดับท้าย +14.37 ม.-รทก. รับนำเข้าระบบชลประทาน 2 ฝั่ง ในอัตรา 292 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในอัตรา 1,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
แต่เนื่องจากบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างเกิดภาวะน้ำท่วมขัง ชุมชนริมตลิ่งนอกคันกั้นน้ำได้รับความเดือดร้อน เพื่อควบคุมผลผลกระทบดังกล่าวไม่ให้ขยายวงกว้างมากขึ้น จึงมีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ว่างเหนือเขื่อนเจ้าพระยาชะลอน้ำไว้ชั่วคราว ซึ่งส่งผลให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นไม่เกินระดับ +17.50 ม.-รทก. โดยจะมีพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ดังนี้
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ประสานจังหวัดอุทัยธานี และจังหวัดชัยนาท โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ริมน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา เฝ้าระวังสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชนที่ประกอบกิจการในแม่น้ำ อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร ท่าเทียบเรือโดยสารสาธารณะ ตลอดจนประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำและบริเวณจุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ รวมถึงเตรียมพร้อมในการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงให้พ้นจากแนวน้ำท่วม
นอกจากนี้ ยังได้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำและแนวป้องกันน้ำท่วมให้มีความแข็งแรง เพื่อป้องกันระดับน้ำล้นข้ามแนวคันกั้นน้ำ อีกทั้งจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย เพื่อเตรียมความพร้อมออกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับประชาชน ขอให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด และเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น และหากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”