เขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มการระบายน้ำ พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำเช็กด่วน

12 ก.ย. 2568 | 03:10 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ก.ย. 2568 | 03:18 น.

เขื่อนเจ้าพระยา ปรับเพิ่มการระบายน้ำจาก 1,950 ลบ.ม./วินาที เป็น 2,000 ลบ.ม./วินาที พื้นที่ลุ่มต่ำเหนือเขื่อนและพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ เตรียมรับผลกระทบ ด้านกทม.ไม่ประมาท กางแผนรับมือน้ำเหนือ น้ำทะเลหนุน ฝนตกหนัก

วันที่ 12 กันยายน 2568 กรมชลประทาน รายงานว่า ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป จะทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจากอัตรา 1,950 ลบ.ม./วินาที เป็น 2,000 ลบ.ม./วินาที ภายในเวลา 15.00 น. ของวันนี้(12 ก.ย.68) และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนและฝนที่ตกในระยะนี้

อัปเดตสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา ในช่วงเช้าของวันนี้ เวลา 06.00 น. 

สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 

  • ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,101  ลบ.ม./วินาที
  • ระดับน้ำ 23.06 ม. (ต่ำกว่าตลิ่ง 2.64 ม.)
  • แนวโน้มเพิ่มขึ้น

สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท

  • ปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,950 ลบ.ม./วินาที
  • ระดับน้ำเหนือเขื่อน 17.11 ม.
  • ระดับน้ำท้ายเขื่อน 14.53 ม. (ต่ำกว่าตลิ่ง 1.81 ม.)
  • แนวโน้มเพิ่มขึ้น

การบริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำไว้ด้านเหนือ พร้อมรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่ง ตามศักยภาพของคลอง  เพื่อลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด 

พื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำบริเวณด้านเหนือเขื่อนที่ได้รับผลกระทบ

  • อ.มโนรมย์ (ต.ท่าฉนวน ต.ศิลาดาน ต.วัดโคก ต.คุ้งสำเภา จ.ชัยนาท
  • อ.วัดสิงห์ (ต.มะขามเฒ่า ต.วัดสิงห์) จ.ชัยนาท
  • อ.เมืองชัยนาท (ต.ธรรมามูล ต.หาดท่าเสา ต.เขาท่าพระ ต.ท่าชัย ต.บ้านกล้วย ต.ชัยนาท)

พื้นที่นอกคั้นกันน้ำบริเวณด้านท้ายเขื่อนที่ได้รับผลกระทบ

  • คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง  
  • คลองบางบาล ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา 
  • ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่อยู่ติดกับแม่น้ำน้อย  

หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป

เขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มการระบายน้ำ พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำเช็กด่วน

กรุงเทพมหานคร เตรียมเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำเจ้าพระยาและพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่ตรวจแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาและพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม โดยกล่าวถึงภาพรวมสถานการณ์น้ำของกรุงเทพฯ ที่ต้องเฝ้าระวังจาก 3 ส่วนหลัก ได้แก่

  1. น้ำฝนในพื้นที่ โดยช่วงที่ผ่านมา กรุงเทพฯ มีฝนตกหนักต่อเนื่อง และตกแบบ Rain Bomb ซึ่งมีสาเหตุจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 
  2. น้ำทะเลหนุน ซึ่งจะมีผลดันระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาให้สูงขึ้น 
  3. น้ำเหนือที่ไหลลงมา ซึ่งต้องติดตามใกล้ชิด เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนค่อนข้างสูง ใกล้เคียงกับปี 2554 แต่เชื่อว่าปีนี้จะสามารถบริหารจัดการได้ดีกว่า เพราะมีบทเรียนและประสบการณ์ที่ผ่านมา

ปัจจุบันเขื่อนเริ่มทยอยปล่อยน้ำลงมา อัตราการปล่อยอยู่ที่ประมาณ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่ระดับวิกฤตอยู่ที่ 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ดังนั้นยังมีช่องว่างในการรองรับได้ แต่ไม่สามารถวางใจได้ ต้องระวังหากเกิดพายุเข้าหรือฝนตกหนักทางภาคเหนือ ซึ่งมีโอกาสทำให้น้ำไหลเข้าเขื่อนเพิ่มขึ้นและอาจทำให้เขื่อนต้องปล่อยน้ำเพิ่ม
 

 

ในส่วนของแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยังมีจุดฟันหลอที่ไม่มีคันกั้นน้ำ จำนวน 32 จุด ดำเนินการก่อสร้างแนวคันกั้นน้ำเสร็จแล้ว 22 จุด อยู่ระหว่างดำเนินการอีก 10 จุด ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จ 3 จุดภายในเดือนกันยายน 2568 อีก 7 จุดที่เหลืออยู่ระหว่างการของบประมาณ โดยจุดที่เหลือเหล่านี้ได้จัดเรียงกระสอบทรายแล้ว

สำหรับจุดที่ติดตามข้อมูลอัปเดต อาทิ บริเวณ ปตร.บางกรวย (จ.นนทบุรี) ซึ่งเป็นเขื่อนของกรมชลประทานที่มีความเสียหายด้านหน้าประตู ทำให้น้ำสามารถเข้ามาได้ ที่ผ่านมาเทศบาลเมืองบางกรวยได้ทำคันดินชั่วคราวสูง +2.5 ม.รทก. ซึ่งสามารถใช้การได้ น้ำไม่เข้า ส่วนการซ่อมถาวร กรมชลฯ อยู่ระหว่างของบประมาณ 2569, บริเวณวัดวิมุตยาราม ซึ่งเพิ่งสร้างเขื่อนเสร็จ ทำให้การป้องกันน้ำดีขึ้น, บริเวณวัดจันทร์สโมสร ซึ่งเป็นจุดฟันหลอ ได้มีการเตรียมกระสอบทรายไว้แล้ว, บริเวณวังหลัง ซึ่งเมื่อก่อนเป็นจุดฟันหลอ ปัจจุบันดำเนินการเรียบร้อย, บริเวณวัดระฆัง เป็นจุดอ่อนเนื่องจากเป็นท่าขึ้น-ลงเรือ ได้มีการจัดเรียงกระสอบทรายแล้ว

“การลงพื้นที่วันนี้เพื่อสร้างความมั่นใจว่า กทม. พร้อมดำเนินการเต็มที่ในการดูแลทุกคน หากพบปัญหาให้แจ้งเข้ามาได้ที่ Traffy Fondue หรือโทร. 0 2248 5115 หรือสายด่วน 1555 ตลอด 24 ชั่วโมง” 

นายชัชชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้กำชับสำนักการระบายน้ำให้ดูแลแนวคันกั้นน้ำให้เข้มแข็ง เสริมในจุดที่อ่อนแอ จุดไหนที่ยังทำไม่เสร็จ ก็จัดเตรียมกระสอบทรายให้พร้อม ติดตามดูแลคันกั้นน้ำด้านบนแม้ไม่ใช่ของ กทม.