การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ในวาระ 2 และ วาระ 3ของสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างวันที่ 13 – 15สิงหาคมนี้ โดยพรรคเพื่อไทย มั่นใจ ว่าร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ ดังกล่าวจะผ่านสภาฯได้อย่างแน่นอน
ท่ามกลางความเปราะบางของรัฐบาลจากเสียงที่ปริ่มน้ำ ซ้ำร้าย ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำพิพากษาคดีคลิปเสียงฮุนเซน ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมวันที่29 สิงหาคม2568 ซึ่งเป็นที่จับตามองว่าจะรอดคดีหรือไม่
ส่งผลต่อความสั่นสะเทือนและเสถียรภาพรัฐบาลที่หลายฝ่ายประเมินว่าน่าจะอายุสั้น อาจจะต้องถึงขั้นยุบสภา หรือไม่ ไม่ว่าจะเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี กระแสนางสาวแพทองธารลาออกก่อนวันที่ศาลอ่านคำพิพากษา เหล่านี้ล้วนแต่เป็นปัจจัยเสี่ยงแทบทั้งสิ้น
ประเด็นที่น่าจับตาที่ภาคเอกชน ตลาดจนนักวิชาการเป็นกังวลคือ งบประมาณปี2569 จะเบิกจ่ายได้ลื่นไหลหรือไม่ เพราะหาก ต้องยุบสภาและกว่าจะเลือกตั้งได้รัฐบาลใหม่มาบริหารประเทศ น่าจะกลางปี2569 ซึ่งเป็นที่จับตาโดยเฉพาะงบลงทุนขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ
นายกฤษดา จันทร์จำรัสแสง อุปนายก สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยกับ”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ปัจจุบันมีหลายปัจจัยเสี่ยง ทั้งเศรษฐกิจชะลอตัว รัฐบาลขาดเสถียรภาพและมีคดีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรี
เรื่องนี้ไม่แน่ชัดว่า ผลออกมาเป็นอย่างไรแต่ที่เป็นห่วงหากรัฐบาลมีเหตุไปต่อไม่ได้ งบประมาณปี2569 โดยเฉพาะงบลงทุนจะเบิกจ่ายไม่ได้ซึ่งอาจล่าช้าออกไป ทั้งๆที่รัฐบาลมีเป้าหมายขับเคลื่อนต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ