จารึกไว้ในแผ่นดิน! บิ๊กคอร์ป–แบงก์–รัฐบาล ระดมช่วยทหาร-ประชาชน หลังปะทะไทย–กัมพูชา

10 ส.ค. 2568 | 08:28 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ส.ค. 2568 | 10:28 น.

จารึกน้ำใจจากทุกภาคส่วน บิ๊กคอร์ป–แบงก์–รัฐบาล ผนึกกำลังเคียงข้างทหารและชาวบ้านชายแดน รวมพลังช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบเหตุปะทะไทย–กัมพูชา ฟื้นขวัญและต่อชีวิต

ระหว่างวันที่ 24-28 กรกฎาคม 2568 ได้เกิดเหตุปะทะกันตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยฝั่งกัมพูชาเริ่มก่อน และได้สร้างความสูญเสียต่อชีวิตทหาร ประชาชนผู้บริสุทธิ์ และอาคารบ้านเรือน โรงพยาบาลในพื้นที่ รวมถึงสร้างผลกระทบในภาคส่วนอื่น ๆ เป็นอย่างมาก

ภาคเอกชนรายใหญ่ของไทยไทยหลายรายเข้าช่วยทั้งแบบมอบเงินกองทุน/บริจาคให้รัฐบาล กองทัพ หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ รวมถึงมอบสิ่งของ บริจาคถุงยังชีพ และมีบางรายให้ความช่วยเหลือเชิงระยะยาว เช่น มอบทุนการศึกษาและเปิดโอกาสการจ้างงานให้บุตรหลานทหารที่เสียชีวิต/ได้รับผลกระทบ ซึ่ง “ฐานเศรษฐกิจ”สรุปความช่วยเหลือที่สำคัญบางส่วนไว้ดังนี้

GULF (Gulf Energy) :  ตั้งกองทุนช่วยเหลือมูลค่า 100 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ/เสียชีวิตและครอบครัว เป็นการมอบให้กองทัพเพื่อนำไปใช้เยียวยาโดยตรง

BTS Group (คีรี กาญจนพาสน์ / บีทีเอส) : ประกาศมอบเงินสนับสนุนให้รัฐบาล/กองทัพ (ข่าวรายงานเป็นเงิน 50 ล้านบาทในรอบแรก และบริษัทระบุว่ารวมเป็น 100 ล้านบาทในภายหลัง) เพื่อใช้ฟื้นฟูและเยียวยาประชาชนและกำลังพลตามแนวชายแดน

เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group / ซีพี) : มอบทุนการศึกษาแบบระยะยาว (จนจบปริญญาตรี) พร้อมค่าครองชีพ แก่บุตร/ครอบครัวของทหารผู้สละชีพจากเหตุการณ์ชายแดน และเปิดโอกาสรับเข้าทำงานในเครือเมื่อจบการศึกษา ซึ่ง เป็นความช่วยเหลือเชิงระยะยาว/สวัสดิการทางสังคม

PTT และกลุ่มบริษัทในเครือ :  มอบเงินบริจาค (ข่าวระบุเช่น 5,000,000 บาท) และมอบถุงยังชีพ/สิ่งของจำเป็น (ผ้าห่ม น้ำดื่ม เวชภัณฑ์ ฯลฯ) ให้รัฐบาล/หน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อนำไปช่วยประชาชนตามพื้นที่ชายแดน.

ขณะที่หน่วยงาน/องค์กรเอกชนอื่น ๆ และสื่อ / มูลนิธิ กลุ่มธุรกิจขนาดกลาง–ใหญ่ : มีการระดมสิ่งของและเงินบริจาคจากหลายเอกชน เช่น บริษัทค้าส่ง บริษัทรถขนส่ง สื่อมวลชน/มูลนิธิ เปิดโรงครัว ส่งสิ่งของช่วยเหลือศูนย์พักพิง เป็นต้น

  • ขณะที่ยังมีมาตรการสำคัญจากธนาคารต่างๆ ที่เข้าช่วยเหลือดังนี้

1. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

  • ยกหนี้ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย สำหรับลูกหนี้ที่เป็นทหารหรือตชด. ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ เหตุการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (มาตรการพิเศษเฉพาะกรณีนี้)

2. ธนาคารกรุงไทย

  • ยกหนี้ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย 100% สำหรับทหารและตชด. ที่เสียชีวิต ทุพพลภาพ หรือสูญเสียอวัยวะจากเหตุการณ์ดังกล่าว

3. ธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb)

  • ยกหนี้ เงินต้นและดอกเบี้ย ให้กับทหารกล้า 4 นายที่เสียชีวิตในเหตุการณ์
  • สำหรับทหารที่รับเงินเดือนผ่านบัญชี ttb มอบเงินช่วยเหลือรายละ:
    • 150,000 บาท (ทหาร 6 นาย)
    • 100,000 บาท (ผ่านบัญชี “ttb All Free” ให้กับทหาร 7 นาย)
  • สนับสนุนน้ำดื่ม 30,000 ขวด และของใช้จำเป็น (ชุดเสื้อ-กางเกง ถุงเท้า หน้ากากอนามัย) จำนวน 1,000 ชุด แก่กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ชายแดน

4. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)

  • ลดอัตราดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือที่อยู่อาศัยเสียหาย:
    • ดอกเบี้ยเหลือ 0.01% ต่อปี นาน 5 ปีแรก (กรณีรายย่อยและสวัสดิการ)
    • สำหรับบ้านเสียหายจนไม่สามารถอยู่อาศัย ได้ดอกเบี้ย 0.01% ตลอดอายุสัญญา
  • สำหรับกู้เพื่อปลูกสร้างใหม่:
    • ดอกเบี้ย 0% ใน 6 เดือนแรก
    • ปีที่ 2–3 : 2.50% ต่อปี
    • ปีที่ 4–5 : 3.50%
    • ปีที่ 6–10 : MRR-2.00%
    • ปีที่ 11 เป็นต้นไป: ตามอัตรา MRR ของธนาคาร

5. ธนาคารออมสิน

  • เปิด 4 สินเชื่อพิเศษ ดอกเบี้ย 0% ใน 3 เดือนแรก สำหรับประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อน:
    • วงเงินฉุกเฉินสูงสุด 20,000 บาท
    • สินเชื่อฟื้นฟูบ้าน สูงสุด 500,000 บาท
    • ฟื้นฟูรายย่อย สูงสุด 300,000 บาท
    • ฟื้นฟู SME สูงสุด 10 ล้านบาท
  • หลัง 3 เดือนแรก ดอกเบี้ยปรับเป็นอัตราตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น 0.60% ต่อเดือน หรือ MRR-x% ต่อปี ตามประเภทสินเชื่อ

6. บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM)

  • ยกหนี้ (เงินต้นและดอกเบี้ย) ให้ลูกหนี้ที่เป็นทหาร ตชด. หรือเจ้าหน้าที่สาธารณะที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพ
  • พักชำระหนี้ให้ผู้ได้รับความเดือดร้อนจนถึง 31 ธันวาคม 2568

7. บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)

  • พักชำระค่าธรรมเนียมค้ำประกัน และขยายเวลาพักชำระค่างวดได้อีก 6 เดือน
  • เปิดโครงการค้ำประกันสินเชื่อ:
    • SMEs Power Trade & Biz วงเงิน 3,000 ล้านบาท (ต่อราย 0.5–10 ล้านบาท)
    • SMEs Micro Biz วงเงิน 2,000 ล้านบาท (ต่อราย 10,000–500,000 บาท)
  • ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 3 ปีแรก; ปีถัดไปชำระเพียง 1.5% ต่อปี สูงสุด 7 ปี

 

  • ด้านมาตรการเยียวยาของรัฐบาล
  • เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเงินเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบ:
    • ข้าราชการทหาร–ตำรวจ ที่เสียชีวิต: รายละ 10 ล้านบาท
    • ประชาชน (พลเรือน) ที่เสียชีวิต: รายละ 8 ล้านบาท
    • สำหรับผู้ที่ บาดเจ็บ ไม่ว่าจะสาหัสหรือเล็กน้อย และผู้ที่ทุพพลภาพ ก็จะได้รับการดูแลเช่นกัน โดยรัฐบาลยืนยันว่าจะไม่มีใครตกหล่นจากมาตรการนี้
  • นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมยังจัดให้มีมาตรการเฉพาะสำหรับครอบครัวของเจ้าหน้าที่ทหารที่เสียชีวิต เช่น:
    • ให้ได้รับ สวัสดิการต่าง ๆ
    • อาจได้รับ สิทธิพิเศษในการเข้าสู่งานราชการ เพื่อเป็นการตอบแทนการเสียสละของผู้ที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ