ทบ.สรุปปฏิบัติการไทย-กัมพูชาวันแรกตรงเป้า-ตามกฎหมายสากล

24 ก.ค. 2568 | 12:28 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ก.ค. 2568 | 12:28 น.

โฆษก ทบ.สรุปปฏิบัติการไทย-กัมพูชาวันแรกตรงเป้า-ตามกฎหมายสากล ยันไทยไม่มีเจตนา แรงจูงใจโจมตีหากไม่เกิดความจำเป็น ภายหลังถูกบีบบังคับ

พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยโดยสรุปสถานการณ์สู้รบชายแดนไทยกัมพูชา เริ่มเปิดฉากปะทะตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่า สำหรับสถานการณ์ในวันนี้ ไม่ได้แตกต่างไปในช่วงกลางวัน ซึ่งยืนยันว่าไทยไม่ได้มีเจตนา หรือแรงจูงใจโจมตีฝ่ายกัมพูชา เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้ และไม่มีเหตุผลที่จะไปทำเช่นนั้น หากไม่เกิดความจำเป็น ภายหลังถูกบีบบังคับ เนื่องจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

กองทัพบก ดำเนินการภายใต้ความชอบธรรม ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ในการใช้กำลังตามกฎบัติสหประชาชาติ มาตรา 51 สามารถใช้กำลังป้องกันตนเองจากการถูกโจมตีด้วยอาวุธ จากฝ่ายกัมพูชา และการตอบโต้ฝ่ายไทย มุ่งทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น

นอกจากนี้ ผู้บริหารฝ่ายไทยและกัมพูชา ต้องหาทางเจรจาในระดับรัฐบาล และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง หาแนวทางสันติวิธี เพื่อแก้ไขปัญหาต้นเหตุทั้งทางตรงและทางอ้อม เนื่องจากประชาชนสองประเทศ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาขัดแย้งกัน และได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ส่วนที่กัมพูชาโจมตีเป้าหมายพลเรือนนั้น การใช้อาวุธและปฏิบัติการทางทหารตามกติกา ต้องอยู่ในพื้นที่จำกัด และเป็นเป้าหมายทหารเท่านั้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของกัมพูชา เพราะผิดกฎกติกาสากล เมื่อเกิดเหตุเราก็ต้องดูแลอย่างดีที่สุดการปฏิบัติทางฝ่ายทหาร และฝ่ายปกครอง ช่วยกันแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียใจและเราไม่อยากให้เกิดขึ้น

ด้านการส่งเครื่องบิน F-16 โจมตีกัมพูชา 2 รอบ เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการใช้อาวุธสนับสนุนระยะไกลโดยใช้อากาศยาน ถือว่ามีความแม่นยำ และไม่ส่งผลกระทบต่อเป้าหมายที่นอกเหนือจากแผนที่วางไว้ เพราะฉะนั้นถือเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการ 

ส่วนจะมีผลต่อฝ่ายกัมพูชายอย่างไรก็ต้องติดตาม แต่สิ่งที่ใช้เป็นไปตามเหตุผลและความจำเป็น และอยู่ในกรอบการปฏิบัติต่อเป้าหมายทางทหาร 

สำหรับความสูญเสียของฝ่ายกัมพูชานั้น  ยังไม่ได้รับข้อมูลอย่างเป็นทางการ 

อีกทั้งยังประเมินไม่ได้ว่าการเปิดปฏิบัติการครั้งนี้ต้องใช้เวลากี่วัน แต่เชื่อว่าต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง แต่ปรารถนาอยากให้จบลงรวดเร็วและสั้นที่สุด

 

นอกจากนี้มีพื้นที่อื่นอีก ยังไม่ได้รับข้อมูลว่ามีการปะทะจาก 6 พื้นที่ในตอนเช้า ซึ่งขณะนี้เชื่อว่ายังทำงานได้ตามเป้าหมาย ซึ่งสรุปการปฏิบัติการสำเร็จตรงเป้าไม่ได้ผิดไปน้ำที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเรามีความพร้อมบางครั้งประชาชนอาจจะมองไม่ทันใจ แต่จริงแล้ว เรื่องของแผนและการเตรียมการมีอยู่แล้ว แต่การปฏิบัติต้องอยู่ในกรอบกติกาสากลไม่เกินกว่าเหตุ

อย่างไรก็ดี ยืนยันว่าทางกัมพูชาใช้อาวุธก่อน ในพื้นที่ของปราสาทตาเมือนธม พื้นที่นี้เริ่มผิดปกติ มีการใช้มวลชน ซึ่งทุกเหตุการณ์มีพัฒนาการของตัวเองและมีการจัดระเบียบและมีที่มาที่ไป และมีความตั้งใจที่จะให้เป็นแบบนั้น ซึ่งเราทราบดีและตอบโต้ ไม่เหมาะสม ไม่ทำให้สิ่งที่เราทำมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศ ในมุมมองของสากล

ขณะที่ข้อสังเกตถึงสายลับ ที่ทำตัวเหมือนประชาชน แล้วแอบถ่ายจำนวนเจ้าหน้าที่ทหารไทยส่งไปให้กับทางกัมพูชานั้น ก็ต้องเฝ้าระวังและตรวจสอบต่อไป