หอการค้าอุบลฯ ระบุชาวบ้านอพยพ หลังชายแดนไทย-กัมพูชา เข้าสู่ภาวะ "สงครามจริง"

นายมงคล จุลทัศน์ ประธานอาวุโสหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สถานการณ์ของแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.อุบลราชธานี ตอนนี้เหมือนเข้าสู่ภาวะ "สงครามจริง" หลังจากล่าสุดมีรายงานลอบวางทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดนช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี จนเป็นเหตุให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสาหัส และเกิดการเปิดฉาดยิงปืนใหญ่จากกัมพูชาเข้ามา ในพื้นที่เฉพาะที่ปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์

ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เร่งอพยพตามแผนแล้ว ซึ่งได้เตรียมตัวกันมานานกว่า 2 เดือน นับตั้งแต่มีคำสั่งปิดด่านชายแดน

“จากเท่าที่ทราบมาเกิดการปะทะเกิดขึ้นนานหลายชั่วโมง เสียงปืนใหญ่ดังระงม จนชาวบ้านในแถบต้องอพยพด่วน โดยเฉพาะเด็กและคนแก่ ซึ่งตอนนี้ผู้คนค่อนข้างแตกตื่น อย่างอำเภอน้ำยืนตลอดเส้นทางถนนที่มุ่งออกมาจากพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา รถติดยาวเป็นกิโลเมตร ตามปั้มแต่ละจุดเต็มไปด้วยรถที่เข้าจอดเติมน้ำมัน”

ทั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นประชาชนได้คาดการณ์เหตุการณ์นี้ล่วงหน้าแล้ว และกองทัพก็ได้แจ้งเตือนตลอดว่าจะมีเหตุ แม้ประชาชนจะตื่นกลัวก็ยังปรับตัวเร็ว และเคลื่อนย้ายตามสถานการณ์โดยไม่มีปัญหา

นายมงคล กล่าวว่า สำหรับปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ประชาชนคนพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีค่อนข้างรับมือได้ดี ผลกระทบที่เกิดขึ้นจึงอยู่ในการคาดการณ์ แม้กระทั่งการค้าชายแดนก็เตรียมพร้อมรับไว้แล้ว

โดยมูลค่าการค้าชายแดนไทย-กัมพูชาที่อุบลราชธานี (จุดผ่อนปรน) ไม่ได้สูงมากนัก เฉลี่ยเพียง 5-6 ล้านบาท/เดือน แตกต่างจากชายแดนไทย-สปป.ลาว ที่มีมูลค่าสูงถึง 3 หมื่นล้านบาท/ปี ทำให้ผลกระทบในด้านการค้าไม่รุนแรงมากนัก