วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) แถลงผลประชุมติดตามผลการปฏิบัติการด้านอาชญากรรมไซเบอร์ ซึ่งมีคดีสำคัญในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5 ที่ดำเนินการอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการบุกทลายเครือข่ายพนันออนไลน์ข้ามชาติในจังหวัดเชียงใหม่
หนึ่งในคดีที่น่าจับตาคือ ปฏิบัติการตรวจค้นพูลวิลล่าหรูในพื้นที่ตำบลบ้านแหวน อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 ได้บุกเข้าจับกุมกลุ่มชาวจีนและชาวเมียนมารวม 17 ราย หลังสืบทราบว่าใช้บ้านหรูหลังดังกล่าวเป็นฐานปฏิบัติการหลอกลวงชาวจีนสูงวัย ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันลงทุนปลอม
ในจุดเกิดเหตุพบผู้ต้องหาชาวจีน 14 ราย (ชาย 11 หญิง 3) และชาวเมียนมา 3 ราย พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์ 10 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 26 เครื่อง ขณะกำลังปฏิบัติการโกงเงินผ่านระบบออนไลน์จากเหยื่อที่มีอายุระหว่าง 60–80 ปี โดยเมื่อเหยื่อตอบรับลงทุนและโอนเงินแล้ว จะถูกตัดการติดต่อทันที
เบื้องต้นพบว่า เครือข่ายดังกล่าวมีลักษณะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์แบบซับซ้อน และมี "บอสชาวจีน" คอยสั่งการจากต่างประเทศ โดยก่อนหน้านี้กลุ่มเดียวกันเคยเช่าบ้านหรูใน อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เป็นฐานมาก่อน แต่หลังจากถูกทลายเมื่อกลางเดือนมิถุนายน จึงย้ายมายัง อ.หางดง
นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ต้องหาเข้ามาในประเทศไทยโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว และบางรายใช้วีซ่านักศึกษาที่ออกโดยมหาวิทยาลัยสงฆ์และมหาวิทยาลัยเอกชนในพื้นที่เชียงใหม่ ซึ่งมีรายงานว่าออกวีซ่านักศึกษาให้ชาวจีนมากถึง 13,000 คน โดยส่วนหนึ่งใช้ช่องทางนี้หลบเลี่ยงกฎหมายเพื่อกระทำผิดในประเทศ
จากการสืบสวนของตำรวจและการตรวจสอบข้อมูลในคอมพิวเตอร์ พบว่ามีผู้เสียหายชาวจีนมากกว่า 100,000 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านหยวน หรือ ประมาณ 500 ล้านบาทไทย
โดยตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน" และ "ร่วมกันเป็นอั้งยี่ซ่องโจร" พร้อมทั้งประสานสถานกงสุลจีนเข้าร่วมตรวจสอบ และเตรียมขยายผลจับกุมเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ
วันเดียวกัน พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5 ยังรายงานผลการจับกุมเครือข่าย "บัญชีม้า" ที่ทำหน้าที่ถอนเงินจากระบบให้เครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย เป็นหญิงชาวไทย 1 คน และชายชาวจีน 2 คน พร้อมของกลางเงินสดกว่า 2.6 ล้านบาท หลังเกิดเหตุทะเลาะวิวาทหน้าตู้เอทีเอ็มกลางห้างดังในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายมารับเงินจากบัญชีม้า
สอบสวนพบว่า กลุ่มนี้เป็นเครือข่ายเดียวกับกลุ่มพนันออนไลน์ มีหัวหน้าชาวจีนทำหน้าที่บริหารจัดการการถอนเงินและส่งต่อให้บอสหลักในต่างประเทศ โดยหญิงไทยรับจ้างกดเงินเพราะต้องการนำเงินไปใช้หนี้ เป็นครั้งแรกที่เธอเข้าร่วมขบวนการ
พล.ต.อ.ธัชชัย เน้นย้ำว่า อาชญากรรมไซเบอร์และปัญหาบัญชีม้าเป็นภัยที่กระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการตรวจสอบ ตั้งแต่การออกวีซ่า การทำธุรกรรมการเงิน ไปจนถึงกระบวนการสืบสวนและส่งกลับผู้ต้องหาอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ศปอส.ตร. จะเดินหน้าปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมออนไลน์และเร่งประสานงานกับหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อปิดล้อมขบวนการหลอกลวงที่แฝงตัวอยู่ในไทยอย่างเด็ดขาด