วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) โดย พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ฯ ได้เปิดเผยความคืบหน้าปฏิบัติการ “ระเบิดสะพานโจร” ตามคำสั่งของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ได้รับมอบนโยบายเร่งด่วนจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้กวาดล้างขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งระบบให้หมดสิ้นภายในปี 2568
กลยุทธ์ใหม่แก๊งจีนเปิดบัญชีเอง
ภายใต้ความเข้มงวดของฝ่ายไทยในการตรวจสอบการเปิดบัญชี “บัญชีม้า” โดยบุคคลภายในประเทศ ขบวนการคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจึงปรับกลยุทธ์ โดยเปลี่ยนจากการใช้คนไทยเป็นผู้เปิดบัญชีม้า มาเป็นการเดินทางเข้ามาในประเทศด้วย วีซ่านักท่องเที่ยว แล้วเปิดบัญชีธนาคารด้วยตัวเอง ก่อนจะถอนเงินและเดินทางออกนอกประเทศภายในไม่กี่วัน
จากการสืบสวนของ ศปอส.กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศปอส.บช.น.) พบพฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องหาชาวจีน ที่มีการเปิดบัญชีธนาคาร 15 บัญชีในช่วงกลางเดือนมีนาคม 2568 และตระเวนกดเงินสดจากตู้ ATM รวมถึงถอนเงินจำนวนมากจากเคาน์เตอร์ภายใน 1–2 วัน ก่อนเดินทางออกนอกประเทศทันที
เมื่อตรวจสอบข้อมูลทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com พบว่า 15 บัญชีธนาคารดังกล่าว มีผู้เสียหายแจ้งความแล้วรวม 106 คดี และยังเชื่อมโยงไปยัง บัญชีที่ใช้หลอกลวงอื่นๆ อีก 462 บัญชี รวมความเสียหายจากเครือข่ายนี้ มากกว่า 2,200 ล้านบาท
เชือด 4 ชาวจีน จับ 5 คนไทยพัวพัน
ต่อมา เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 ศปอส.บช.น. ได้เข้าจับกุมกลุ่มชาวจีน 4 ราย ที่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการหลอกลวง ได้แก่
MR. YANG – จัดหาบัญชีม้า
MR. XIE – จัดหาบัญชีม้า
MR. HANG – ควบคุมการถอนเงิน
MR. WU – กระทำผิดเกี่ยวกับการซื้อขายบัญชีธนาคาร
ทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อหาหนัก อาทิ ฉ้อโกงประชาชน, อั้งยี่, ฟอกเงิน และ นำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์
การสืบสวนยังขยายผลไปถึง ธนาคารแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พบว่า พนักงานธนาคาร และ เอเจนซี่ในพื้นที่ มีส่วนร่วมจัดทำเอกสารเท็จและอำนวยความสะดวกให้กลุ่มชาวจีนเหล่านี้ จนนำไปสู่การออก หมายจับเพิ่มเติมอีก 5 ราย ได้แก่
น.ส.สิริลักษณ์, น.ส.ชุติมา, นายทรงพล – พนักงานธนาคาร
น.ส.มนธิดา, นายณรงค์ฤทธิ์ – ล่ามและเอเย่นต์เปิดบัญชี
ทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาเกี่ยวกับ การจัดหาและให้ยืมบัญชีเพื่อกระทำผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, สนับสนุนการฉ้อโกง, และฟอกเงิน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก ศปอส.ภ.2 ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง แล้ว
ช่องโหว่ระบบธนาคาร-ตร.ลุยยึดทรัพย์ต่อ
พล.ต.อ.ธัชชัย ระบุว่า ขบวนการคอลเซ็นเตอร์จีน ยังมีเครือข่ายที่ซ่อนอยู่ในหลายจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม และมีการใช้วีซ่าท่องเที่ยวเป็นช่องทางเข้ามากระทำความผิดในลักษณะเดียวกันอีกจำนวนมาก
“การเปิดบัญชีจำนวนมากในช่วงเวลาสั้นๆ โดยชาวต่างชาติ พร้อมมีเจ้าหน้าที่ธนาคารเอื้อประโยชน์ แสดงให้เห็นช่องโหว่ของระบบที่เราต้องอุดให้เร็วที่สุด ศปอส.ตร. จะเร่งขยายผล ยึดทรัพย์ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด และเสนอมาตรการเพิ่มความเข้มงวดในระบบธนาคารต่อไป” พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าว