เช็กสถานะปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา หลังกองทัพสั่งควบคุมจุดผ่านแดน

07 มิ.ย. 2568 | 06:51 น.
อัปเดตล่าสุด :08 มิ.ย. 2568 | 02:12 น.

ตรวจสอบสถานะล่าสุดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ปี 2568 หลังกองทัพบกมอบอำนาจควบคุมเปิด-ปิดจุดผ่านแดน 18 แห่ง ปัจจุบันเปิด 16 แห่ง ปิด 2 แห่ง พร้อมมาตรการรักษาความมั่นคง

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568 ว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในคำสั่งมอบอำนาจให้ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพาและผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี มีอำนาจควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยสามารถพิจารณากำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่

 

การดำเนินการดังกล่าวเป็นผลจากมติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ที่มอบหมายให้กองทัพบกเป็นหน่วยหลักในการควบคุมจุดผ่านแดน เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามข้อกำหนดของกองทัพบกอย่างเคร่งครัด

สาเหตุเบื้องหลังการออกมาตรการควบคุมการเปิด-ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา

 

โฆษกกองทัพบกระบุว่า การออกมาตรการนี้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยฝ่ายกัมพูชาได้รุกล้ำชายแดนไทยหลายครั้งพร้อมแสดงท่าทียั่วยุอย่างเปิดเผย แม้ไทยจะใช้สันติวิธีและพยายามเจรจา แต่กัมพูชายังคงเสริมกำลังและจัดตั้งฐานทหารใกล้ชายแดน ซึ่งแสดงถึงความไม่ร่วมมือและเป็นภัยต่ออธิปไตยและความมั่นคงของไทย ทำให้ไทยจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามแนวชายแดน

4 ขั้นตอนควบคุมจุดผ่านแดน ชายแดนไทย-กัมพูชา

 

มาตรการเข้มควบคุมจุดผ่านแดน ชายแดนไทย-กัมพูชา แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ตามระดับความเข้มข้นของสถานการณ์ โดยมาตรการนี้ ยังคงยึดมั่นในหลักสันติวิธี และให้ความสำคัญต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ดังนี้

 

ขั้นที่ 1 จำกัดการผ่านแดนเฉพาะบุคคลที่มีเหตุจำเป็น เช่น การค้าขาย การขนส่งสินค้า แรงงาน และงานจำเป็นอื่น ๆ พร้อมทั้งเข้มงวดเป็นพิเศษกับนักพนันและกลุ่มที่มีพฤติกรรมเสี่ยง

 

ขั้นที่ 2 จำกัดวัน-เวลาในการเข้า-ออกจุดผ่านแดน ลดช่วงเวลาการเปิด-ปิด เพื่อควบคุมความเคลื่อนไหวของบุคคลและกิจกรรมในพื้นที่ชายแดน

 

ขั้นที่ 3 ปิดบางจุดผ่านแดน (Selective Closure) โดยคัดเลือกจุดที่มีความเสี่ยง หรือเหตุผลด้านความมั่นคง เพื่อสกัดกั้นการรุกล้ำหรือการก่อเหตุจากฝ่ายตรงข้าม

 

ขั้นที่ 4 ปิดจุดผ่านแดนตลอดแนวชายแดน เพื่อควบคุมสถานการณ์ขั้นสูงสุด หากปรากฏสถานการณ์วิกฤต หรือมีการรุกรานอย่างชัดเจน

 

มาตรการดังกล่าวได้มอบอำนาจให้ กองกำลังบูรพา และ กองกำลังสุรนารี เป็นผู้พิจารณากำหนดรายละเอียด หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขในการปฏิบัติให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ การรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชายแดน และความปลอดภัยของประชาชน

 

สถานะปัจจุบันจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา

 

ปัจจุบันไทยมีจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมด 18 แห่ง ใน 7 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ สระแก้ว จันทบุรี ตราด และบุรีรัมย์ โดยแบ่งเป็น:

 

จุดผ่านแดนถาวร 8 แห่ง

- ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ

- ช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์

- บ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

- บ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว

- สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (หนองเอี่ยน-สตึงบท) อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

- บ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี

- บ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี

- บ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด

 

จุดผ่อนปรนการค้า 9 แห่ง

- บ้านน้ำยืน (ช่องอานม้า) อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี

- บ้านตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว

- บ้านหนองปรือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

- บ้านซับตารี อ.สอยดาว จ.จันทบุรี

- บ้านสวนส้ม อ.สอยดาว จ.จันทบุรี

- บ้านบึงชนังล่าง อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี

- บ้านหมื่นด่าน อ.บ่อไร่ จ.ตราด

- บ้านมะม่วง (เนิน 400) อ.บ่อไร่ จ.ตราด

- ช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์

 

จุดผ่อนปรนเพื่อการท่องเที่ยว 1 แห่ง

- ช่องทางขึ้นเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ

 

จุดผ่านแดนที่ปิดแล้ว 2 แห่ง

 

ขณะนี้มีจุดผ่านแดนที่ปิดไปแล้ว 2 แห่ง คือ

1. จุดผ่อนปรนการค้าบ้านหมื่นด่าน อ.บ่อไร่ จ.ตราด เนื่องจากไม่มีชาวบ้านสัญจรและไม่มีการส่งออก-นำเข้าสินค้ามาเป็นเวลานาน

2. ช่องทางขึ้นเขาพระวิหารด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง

 

สถานะปัจจุบันจึงมีจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชาเปิดทำการ 16 แห่ง ปิด 2 แห่ง

 

อัพเดทสถานะเปิด-ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา

 

7 มิถุนายน 2568 นาวาเอก นพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ใช้อำนาจทหารตามกฎอัยการศึก  สั่งระงับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวกัมพูชา เดินทางผ่านเข้า - ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ตำบลเทพนิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน และจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ตำบลคลองใหญ่ อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดจันทบุรี เป็นการชั่วคราว ยกเว้นแรงงานชาวกัมพูชา ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยให้การค้าขายระหว่างประเทศเป็นไปตามปกติ

 

มาตรการเปิด-ปิดด่านกองกําลังสุรนารี 

 

ด้านแม่ทัพภาค 2 ได้ลงนามคำสั่งการควบคมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่รับผิดชอบของกองกําลังสุรนารี  โดยกองกําลังสุรนารี จะกำหนดมาตรการควบคุมการ ปิด-เปิด จุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณพื้นที่ที่รับผิดชอบ โดยให้ผู้บัญชาการกองกําลังสุรนารี มีอํานาจ และหน้าที่ดังต่อไปนี้

1. มีอำนาจในการสั่งการเปิด-ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกําลังสุนารี โดยห้ามมิให้บุคคลหรือยานพาหนะ เข้า-ออก จุดผ่านแดนทุกประเภท การนําเข้าและส่งออกซึ่งสินค้า อุปโภคบริโภค และยุทธภัณฑ์ต่างๆ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองประเทศ (ยกเว้น การค้าขายตามแนวชายแดนหรือด้านเศรษฐกิจอื่นๆ หรือด้านการ ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม) โดยให้มีผลตั้งแต่เวลา 19.00 น. ของวันที่ 7 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป


2. มีอำนาจปรับลดเวลาผ่าน เข้า-ออก จุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกําลังสุรนารี โดยพิจารณาในแต่ละพื่นที่หากมีความจำเป็นเร่งด่วน เช่น จุดหรือ บริเวณที่มีการปะทะกันระหว่างทหารทั้งสองฝ่าย หรือบริเวณใกล้เคียง ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกําลังสุรนารี

 

3. มีอำนาจปิดจุดผ่านแดนบางพื้นที่ โดยให้พิจารณาเหตุผลด้านความมั่นคงเป็นสำคัญ ได้แก่ การกดดันฝ่ายที่รุกราน  การระมัดระวังป้องกันประชาชนที่จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์  การป้องกันบุคคลที่ประสงค์ร้ายผ่านเข้า-ออก และรวมถึงการจํากัดคนข้ามไปทํางานในฝั่งประเทศกัมพูชา เพื่อกระทําผิดกฎหมายต่างๆ เป็นต้น

 

4. เมื่อมีการประทะหรือใช้กําลังทางทหาร ให้ผู้บัญชาการกองกําลังสุรนารี มีอานาจในการสั่งปิดด่าน หรือจุดผ่านแดนในทันที และมีอำนาจในการเปิด เมื่อเข้าสู่สถานการณ์ปกติ

 

5. รายละเอียดการการเปิด-ปิดจุดผ่านแดน หรือการปรับลดเวลา ในการเปิด-ปิดจุดผ่านแดน ให้เป็นไปตามตารางท้ายประกาศฉบับนี้

 

สำหรับจุดผ่านแดนประกอบด้วย
 

1. ช่องอานม้า ต.โซง อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ประเภทจุดผ่อนปรนด้านการค้า เปิดวันพฤหัสบดี เวลา 09.00-12.00 น.

  • คนผ่านเข้าออกไม่เกินตลาดของสองประเทศ โดยการแลกบัตร
  • สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น
  • การช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมให้เป็นไปตามระเบียบและหลักสากล
  • หมายเหตุ :ให้ปิดจุดผ่อนปรนด้านการค้า กรณี "กัมพูชา" มีการเพิ่มเติมกำลังเป็นจำนวนมาก กระทบต่อความปลอดภัยและทรัพย์สินของประชาชน

2. ช่องสายตะกู ต.จันทบเพรช อ. บ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์  ประเภทจุดผ่อนปรนด้านการค้า เปิดวันอังคาร พุธ พฤหัสบดี เวลา 09.00-12.00 น.

  • คนผ่านเข้าออกไม่เกินตลาดของสองประเทศ โดยการแลกบัตร
  • สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น
  • การช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมให้เป็นไปตามระเบียบและหลักสากล
  • หมายเหตุ :ให้ปิดจุดของตนเมื่อมีการปะทะตามแนวชายแดน

3.ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ประเภทจุดผ่านแดนถาวร เปิดวันจันทร์ พุธ ศุกร์ เวลา 08.00-15.00 น.

  • คนผ่านเข้าออกโดยใช้พาสปอร์ตและ บอร์เดอร์พาส
  • จำกัดการส่งออกสินค้ายุทธภัณฑ์ตามกฎหมาย
  • งดการส่งออกสินค้าเพื่อการก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์
  • ยานพาหนะผ่านได้ตามระเบียบ
  • การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้เป็นไปตามระเบียบและหลักสากล
  • หมายเหตุ : ปิดจุดผ่านแดนเมื่อมีการปะทะ บริเวณพื้นที่ชายแดน

4.ช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ประเภทจุดผ่านแดนถาวร

  • เปิดวันจันทร์ พุธ ศุกร์ เวลา 08.00-15.00 น.
  • คนผ่านเข้าออกโดยใช้พาสปอร์ตและ บอร์เดอร์พาส
  • จำกัดการส่งออกสินค้ายุทธภัณฑ์ตามกฎหมาย
  • งดการส่งออกสินค้าเพื่อการก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์
  • ยานพาหนะผ่านได้ตามระเบียบ
  • การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้เป็นไปตามระเบียบและหลักสากล
  • หมายเหตุ : ให้งดจำหน่ายกระแสไฟฟ้า เมื่อฝ่ายกัมพูชามีการเพิ่มเติมกำลังเป็นจำนวนมาก กระทบความปลอดภัย และชีวิตทรัพย์สินของประชาชน อีกทั้งให้ปิดจุดผ่านแดนเมื่อมีการปะทะบริเวณตามแนวชายแดน