หลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้เป็นชอบร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการระบบตั๋วร่วม เพื่อผลักดันระบบตั๋วร่วม และ ร่างพ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย วาระแรก สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้จัดเสวนา “ปลดล็อกสิทธิผู้โดยสารรถสาธารณะไทย : เจาะลึกตั๋วร่วมถ้วนหน้า ถึงเวลาต้องได้ใช้?” เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินนโยบาย 20 บาทตลอดสาย
นางสุภาพร ถิ่นวัฒนากูล รองเลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า สภาผู้บริโภคอยากเห็นในเมืองที่่เป็นธรรมที่มีขนส่งสาธารณะที่ทุกคนขึ้นได้ โดยขณะนี้ได้ร่วมมือกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)เรื่องการขนส่งที่เป็นธรรมใน 12 จังหวัด
ขณะที่ กทม.เองสภาผู้บริโภคอยากเห็นเมืองที่เป็นธรรมมีขนส่งสาธารณะที่ดี เพราะสิทธิในการเดินทางที่ปลอดภัยเป็นสิทธิของผู้บริโภค ที่จะเดินทางโดยค่าโดยสารที่ราคาเป็นธรรม มีค่าเดินทางไม่เกิน 10% ของรายได้ขั้นค่ำ และรอขนส่งมวลชนไม่เกิน 15 นาที
ดังนั้น สภาผู้บริโภคจึงมีจุดยืนสนับสนุนนโยบายระบบตั๋วร่วม ค่าโดยสารร่วมที่ร่วมทั้งระบบ รถ ราง เรือ เพื่อเข้าถึงรถสาธารณะที่ปลอดภัยและเป็นธรรมอย่างไร โดยเห็นว่า พ.ร.บ.ตั๋วร่วมน่าจะยกระดับพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ
ด้าน นายจิรโรจน์ ศุกลรัตน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กล่าววว่า สิ่งที่ต้องการ คือ การทำให้ระบบขนส่งสาธารณะเข้าถึงได้ ราคาไม่แพง โดยระบบตั๋วร่วมจะเข้ามาช่วยยกระดับการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน
ยอมรับว่า ในปัจจุบัน ระบบขนส่งสาธารณะยังไม่ดีพอ ไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ขณะที่ราคาค่าเดินทางก็ไม่สมเหตุสมผล และปัจจุบันเรามีรถเมล์ 200 เส้นทาง ทำให้คนนิยมใช้รถยนต์ส่วนบุคคลมากกว่า ดังนั้น การพัฒนาระบบตั๋วร่วมจะช่วยให้มีคนเข้าถึงรถขนส่งสาธารณะมากขึ้น
“เนื้อหา พ.ร.บ.ตั๋วร่วม ประกอบด้วย คณะกรรมการนโยบายตั๋วร่วม ที่มีตัวแทนสภาผู้บริโภคเป็นตัวแทนประชาชนเข้ามากำหนดนโยบาย ส่วนเรื่องของการกำหนดอัตราค่าโดยสารร่วม จะพิจารณาระบบตั๋วร่วมเชื่อมโยงทุกระบบร่วมทั้ง รถไฟฟ้า และ รถเมล์ โดยปัจจุบัน กฎหมายตั๋วร่วมอยู่ในชั้นกรรมาธิการวาระ 2 และ น่าจะพิจารณาแล้วเสร็จในเดือน ก.ค นี้ โดยหลังจากนั้น เรามีแผนที่จะพัฒนาระบบฟีดเดอร์มารองรับ เพื่อให้สามารถใช้ระบบตั๋วร่วมและราคาโดยสารร่วมได้ทั้งระบบ รถ ราง เรือ”
นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา พรรคเพื่อไทย ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และโฆษกกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า นโยบายของเพื่อไทย และกระทรวงคมนาคม ต้องการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนสาธารณะโดยเสนอให้ค่าโดยสารรถเมล์ 10 บาทตลอดสาย และเมื่อร่วมกับค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย จะเท่ากับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปและกลับ 60 บาท สอดคล้องกับข้อเสนอสภาผู้บริโภคที่อยากเห็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไม่เกิน 10% ของค่าแรงขั้นต่ำ
ส่วนการเดินหน้านโยบาย 20 บาทตลอดสาย จะสามารถดำเนินการได้ในวันที่ 1 ต.ค. หลังกฎหมาย 3 ฉบับ คือ ร่างฯ กฎหมาย รฟม , กฎหมายตั๋วร่วม และ กฎหมายกรมรางฯ จะพิจารณาแล้วเสร็จในเดือน ก.ย.นี้
สำหรับการชดเชยรายได้เพื่อสนับสนุนค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาท นายกฤชนนท์ กล่าวว่า ในช่วงแรกจะนำเงินกำไรจากค่าโดยสารของ รฟม.มาใช้ก่อน หลังจากนั้น 2 ปี จะพิจารณาผลักดัน เรื่องค่าธรรมเนียมรถติด โดยอยู่ระหว่างศึกษาจะเก็บอัตราเท่าไร โดยพิจารณา 50 บาท ต่อคนต่อวัน และเก็บเขตพื้นที่ขนาด 20 ตารางกิโลเมตร ซึ่งรายได้จะสามารถชดเชย 20 บาท ได้แบบพอดี
นางคนางค์นงค์ หนูสันเทียะ ผู้อำนวยการสำนักการขนส่งผู้โดยสาร กรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ได้เตรียมความพร้อม หลังพ.ร.บตั๋วร่วมบังคับใช้ โดยมีคณะกรรมการควบคุมขนส่งกลาง พิจารณาเรื่องการกำหนดเส้นทาง
“จะนำเอาเงื่อนไข และการกำหนดมาตรฐานตั๋วร่วมมากำหนดในเงื่อนไขการอนุญาต ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการรถหมวด 1 ของ กทม. ประมาณ 100 เส้นทางจำนวนรถ 2 พันคัน รถหมวด 4 มี 84 เส้นทาง และรถไทยสมายด์ ซึ่งเป็นรายใหญ่มีความพร้อมในการเข้าร่วมดำเนินการได้ระบบตั๋วร่วมได้”
นายอภิสิทธิ์ มานตรี ผู้แทนผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะ USER GROUP TRANSPORTION กล่าวว่า อยากเห็นระบบตั๋วร่วมที่เชื่อมโยง รถ ราง เรือ เป็นระบบใบเดียว โดยอยากให้มีการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ระบบฟีดเดอร์ให้ดีขึ้น โดยให้ท้องถิ่น ทั้ง กทม. และ ท้องถิ่น เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ในการจัดการขนส่งมวลชนสาธารณะ
นายอดิศักดิ์ สายประเสริฐ อนุกรรมการด้านการขนส่งและยานพาหนะ สภาผู้บริโภค กล่าวว่า พรบ.ตั๋วร่วม ยกระดับการเดินทางของระบบขนส่งสาธารณะในอนาคตที่ดี เหมือนกับโครงการบัตรทองของสาธารณสุข ในช่วงเปลี่ยนผ่านเกิดปัญหาการเข้าถึงระบบตั๋วร่วม เช่น คนที่สมควรได้กลับถูกตัดสิทธิ คนที่ไม่ควรได้กับเข้าถึงสิทธิได้รับประโยชน์ จึงต้องปิดรูรั่วดังกล่าวให้ดี
ส่วนการพัฒนาระบบขนส่งมวลสาธารณะ เห็นว่า ควรทบทวน พรบ.ระบบขนส่งสาธารณะไปด้วย เช่น
1.พ.ร.บ.ภาษีรถยนต์ ที่ไม่ได้ปรับค่าภาษีมาระยะหนึ่งแล้ว
2.กองทุนเพื่อความปลอดภัยใช้รถใช้ถนน ควรขยายวัตถุประสงค์ให้ครอบคลุมการยกระดับการขนส่งสาธารณะและตั๋วร่วม
3. กรณี อบจ. เดินรถ EV BUS เก็บค่าโดยสารในระดับหนึ่ง เมื่อ อบจ.รับรายได้แล้วจะเข้ามาร่วมในตั๋วร่วมได้หรือไม่
สำหรับราคาค่าโดยสารถไฟฟ้า ปัจจุบันมีราคาค่อนข้างสูงมีราคาเริ่มต้น 14 -62 บาท โดย BTS สายสีเขียว ค่าโดยสารอยู่ที่ 15-62 บาท ถ้าเป็น MRT สายสีน้ำเงิน ค่าโดยสารอยู่ที่ 17-45 บาท รถไฟฟ้าสายสีม่วง 14-20บาท สายสีชมพู 19- 45 บาท สาย สีเหลือง 19- 45 บาท สายสีแดง 14- 20 บาท