กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศ เรื่อง “พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบนและฝนตกหนักบริเวณภาคใต้” ฉบับที่ 7 (116/2568) เตือนว่าประเทศไทยตอนบนจะเกิดพายุฤดูร้อนในช่วงวันที่ 10 – 12 พฤษภาคม 2568
โดยจะมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางแห่ง และมีฟ้าผ่าในบางพื้นที่ ขณะที่ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง
สาเหตุจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ ทำให้ลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน ซึ่งยังมีอากาศร้อน ประกอบกับลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น จึงส่งผลให้หลายพื้นที่มีสภาพอากาศแปรปรวน
วันที่ 10 พฤษภาคม 2568
ภาคเหนือ: เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ตาก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี
ภาคกลาง: นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด
วันที่ 11 พฤษภาคม 2568
ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ตาก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี
ภาคกลาง: นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด
ภาคใต้: เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์
วันที่ 12 พฤษภาคม 2568
ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์
ภาคกลาง: นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด
ภาคใต้: เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร
กรมอุตุนิยมวิทยาขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง เกษตรกรควรเตรียมการป้องกันความเสียหายต่อผลผลิตและสัตว์เลี้ยง และดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
สำหรับภาคใต้ ขอให้เฝ้าระวังฝนตกหนักและฝนสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาและใกล้ทางน้ำไหลผ่าน รวมถึงเตือนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เนื่องจากคลื่นทะเลอันดามันสูง 1–2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด