วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลา 05.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 4 เรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบนและฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ มีผลกระทบในช่วงวันที่ 9–12 พฤษภาคม 2568
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ในคืนวันนี้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทย และทะเลจีนใต้เข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้
วันที่ 9 พฤษภาคม 2568
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
วันที่ 10 พฤษภาคม 2568
- ภาคเหนือ:จังหวัดน่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
- ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
- ภาคตะวันออก:จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ มีข้อจำกัดในการระบายน้ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ เนื่องจากการระบายน้ำอาจทำได้ไม่สะดวก และไม่ควรอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง
สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 10–12 พฤษภาคม 2568 บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ขอให้ประชาชนในภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนชาวเรือในบริเวณดังกล่าวควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย
ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ขอให้ประชาชนวางแผนการใช้ชีวิตและการเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างระมัดระวัง จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงกรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปในวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลา 17.00 น.
อนึ่ง กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ
- อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
- ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
- อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่
- บริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ขอนแก่น
- มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
- อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 38-40 องศาเซลเซียส
- ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคกลาง
- อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
- ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี และราชบุรี
- อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส
- ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
- อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
- ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
- อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
- อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
- ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา
- อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
- มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
- ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
- อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพและปริมณฑล
- อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
- อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 37-39 องศาเซลเซียส
- ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. ได้แจ้งเตือนพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 9-13 พ.ค.68 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม
ภาคเหนือ 12 จังหวัด
- แม่ฮ่องสอน (อำเภอปาย และอำเภอปางมะผ้า)
- เชียงใหม่ (อำเภอแม่แตง อำเภอเชียงดาว อำเภอเวียงแหง อำเภอพร้าว อำเภอแม่อาย อำเภอฝาง อำเภอไชยปราการ อำเภอจอมทอง อำเภอสะเมิง อำเภอแม่วาง และอำเภอแม่ริม)
- เชียงราย (อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่สรวย อำเภอแม่สาย อำเภอเชียงแสน อำเภอเทิง และอำเภอพาน)
- ลำปาง (อำเภอสบปราบ อำเภอวังเหนือ อำเภองาว และอำเภอเกาะคา)
- พะเยา (อำเภอเมืองพะเยา อำเภอแม่ใจ อำเภอภูกามยาว อำเภอดอกคำใต้ และอำเภอเชียงม่วน)
- แพร่ (อำเภอเมืองแพร่ อำเภอสอง อำเภอร้องกวาง และอำเภอหนองม่วงไข่)
- น่าน (อำเภอนาน้อย และอำเภอนาหมื่น)
- อุตรดิตถ์ (อำเภอท่าปลา และอำเภอฟากท่า)
- สุโขทัย (อำเภอเมืองสุโขทัย อำเภอกงไกรลาศ และอำเภอคีรีมาศ)
- กำแพงเพชร (อำเภอขาณุวรลักษบุรี และอำเภอบึงสามัคคี)
- พิษณุโลก (อำเภอวังทอง อำเภอชาติตระการ และอำเภอนครไทย)
- จังหวัดนครสวรรค์ (อำเภอแม่วงก์)
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด
- เลย (อำเภอเมืองเลย อำเภอเชียงคาน อำเภอภูกระดึง อำเภอผาขาว และอำเภอภูเรือ)
- หนองคาย (อำเภอเมืองหนองคาย และอำเภอรัตนวาปี)
- บึงกาฬ (อำเภอปากคาด)
- ชัยภูมิ (อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอคอนสาร อำเภอบ้านเขว้า และอำเภอจัตุรัส)
- มหาสารคาม (อำเภอวาปีปทุม)
- นครราชสีมา (อำเภอคง อำเภอบ้านเหลื่อม อำเภอจักราช และอำเภอพิมาย)
- สุรินทร์ (อำเภอปราสาท อำเภอกาบเชิง และอำเภอสังขะ)
- อุบลราชธานี (อำเภอเขื่องใน และอำเภอสำโรง)
ภาคกลาง 5 จังหวัด
- สระแก้ว (อำเภอคลองหาด และอำเภออรัญประเทศ)
- ฉะเชิงเทรา (อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา และอำเภอบ้านโพธิ์)
- ชลบุรี (อำเภอเมืองชลบุรี และอำเภอศรีราชา)
- จันทบุรี(อำเภอเขาคิชฌกูฏ และอำเภอมะขาม)
- ตราด (อำเภอบ่อไร่ และอำเภอเขาสมิง)
ภาคใต้ 11 จังหวัด
- ชุมพร (อำเภอสวี และอำเภอหลังสวน)
- สุราษฎร์ธานี (อำเภอเกาะสมุย เกาะพะงัน ดอนสัก และอำเภอกาญจนดิษฐ์)
- นครศรีธรรมราช (อำเภอขนอม สิชล และอำเภอนบพิตำ)
- ยะลา (อำเภอยะหา และอำเภอรามัน)
- นราธิวาส (อำเภอเจาะไอร้อง สุไหงปาดี สุไหงโก-ลก และอำเภอแว้ง)
- ระนอง (อำเภอกะเปอร์ และอำเภอสุขสำราญ)
- พังงา (อำเภอเมืองพังงา คุระบุรี ตะกั่วป่า เกาะยาว และอำเภอท้ายเหมือง)
- ภูเก็ต (ทุกอำเภอ)
- กระบี่ (อำเภอคลองท่อม และอำเภอเหนือคลอง)
- ตรัง (อำเภอวังวิเศษ)
- สตูล (อำเภอละงู ควนกาหลง และอำเภอทุ่งหว้า)
พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมขัง
ภาคกลาง
- นนทบุรี (อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอบางใหญ่ อำเภอบางกรวย และอำเภอปากเกร็ด)
- ปทุมธานี (อำเภอลำลูกกา และอำเภอคลองหลวง)
- สมุทรปราการ (อำเภอเมืองสมุทรปราการ อำเภอบางพลี อำเภอบางบ่อ และอำเภอพระสมุทรเจดีย์)
- กรุงเทพมหานคร