ประกาศกรมอุตุฯฉบับ 4 วันนี้ วันพืชมงคล 16 จว.พายุฤดูร้อนถล่ม

09 พ.ค. 2568 | 02:47 น.
อัปเดตล่าสุด :09 พ.ค. 2568 | 03:02 น.

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับ 4 เตือนภาคอีสาน 16 จังหวัดวันนี้รับมือพายุฤดูร้อนถล่ม ส่วนภาคใต้ ฝนตกหนักบางแห่งเช็กพื้นที่เสี่ยง พร้อมตรวจสอบสภาพอากาศทั่วไทยที่นี่

วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลา 05.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 4  เรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบนและฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ มีผลกระทบในช่วงวันที่ 9–12 พฤษภาคม 2568


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ในคืนวันนี้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทย และทะเลจีนใต้เข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้

วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับ 4 เตือนภาคอีสาน วันนี้รับมือพายุฤดูร้อนถล่ม
วันที่ 10 พฤษภาคม 2568    

  • ภาคเหนือ:จังหวัดน่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ 
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม  ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
  • ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
  • ภาคตะวันออก:จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

วันที่  11  พฤษภาคม 2568

  • ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
  • ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
  • ภาคตะวันออก:จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
  • ภาคใต้:จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์

วันที่ 12 พฤษภาคม 2568

  • ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ 
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ:จังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ 
  • ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
  • ภาคตะวันออก:จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
  • ภาคใต้:จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร


 

ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ มีข้อจำกัดในการระบายน้ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ เนื่องจากการระบายน้ำอาจทำได้ไม่สะดวก และไม่ควรอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง

 

สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง

 

สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 10–12 พฤษภาคม 2568 บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร 

 

ขอให้ประชาชนในภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนชาวเรือในบริเวณดังกล่าวควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย

 

ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ขอให้ประชาชนวางแผนการใช้ชีวิตและการเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างระมัดระวัง จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงกรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปในวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลา 17.00 น.


อนึ่ง กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ

  • อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง 
  • ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
  • อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม. 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่
  • บริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ขอนแก่น
  • มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
  • อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 38-40 องศาเซลเซียส
  • ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง

  • อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง 
  • ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี และราชบุรี 
  • อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส 
  • ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.  

ภาคตะวันออก

  • อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ 
  • ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด 
  • อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 
  • ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

  • อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ 
  • ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา
  • อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
  • ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

  • มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
  • ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ 
  • อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
  • ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 
  • ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

  • อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
  • อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส 
  • อุณหภูมิสูงสุด 37-39 องศาเซลเซียส 
  • ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้
ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. ได้แจ้งเตือนพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 9-13 พ.ค.68  โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 

พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม 

ภาคเหนือ 12 จังหวัด

  1. แม่ฮ่องสอน (อำเภอปาย และอำเภอปางมะผ้า)
  2. เชียงใหม่ (อำเภอแม่แตง อำเภอเชียงดาว อำเภอเวียงแหง อำเภอพร้าว อำเภอแม่อาย อำเภอฝาง อำเภอไชยปราการ อำเภอจอมทอง อำเภอสะเมิง อำเภอแม่วาง และอำเภอแม่ริม) 
  3. เชียงราย (อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่สรวย อำเภอแม่สาย อำเภอเชียงแสน อำเภอเทิง และอำเภอพาน) 
  4. ลำปาง (อำเภอสบปราบ อำเภอวังเหนือ อำเภองาว และอำเภอเกาะคา) 
  5. พะเยา (อำเภอเมืองพะเยา อำเภอแม่ใจ อำเภอภูกามยาว อำเภอดอกคำใต้ และอำเภอเชียงม่วน)
  6. แพร่ (อำเภอเมืองแพร่ อำเภอสอง อำเภอร้องกวาง และอำเภอหนองม่วงไข่) 
  7. น่าน (อำเภอนาน้อย และอำเภอนาหมื่น)
  8. อุตรดิตถ์ (อำเภอท่าปลา และอำเภอฟากท่า)
  9. สุโขทัย (อำเภอเมืองสุโขทัย อำเภอกงไกรลาศ และอำเภอคีรีมาศ) 
  10. กำแพงเพชร (อำเภอขาณุวรลักษบุรี และอำเภอบึงสามัคคี) 
  11. พิษณุโลก (อำเภอวังทอง อำเภอชาติตระการ และอำเภอนครไทย)
  12. จังหวัดนครสวรรค์ (อำเภอแม่วงก์)

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด 

  1. เลย (อำเภอเมืองเลย อำเภอเชียงคาน อำเภอภูกระดึง อำเภอผาขาว และอำเภอภูเรือ)
  2. หนองคาย (อำเภอเมืองหนองคาย และอำเภอรัตนวาปี) 
  3. บึงกาฬ (อำเภอปากคาด) 
  4. ชัยภูมิ (อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอคอนสาร อำเภอบ้านเขว้า และอำเภอจัตุรัส) 
  5. มหาสารคาม (อำเภอวาปีปทุม) 
  6. นครราชสีมา (อำเภอคง อำเภอบ้านเหลื่อม อำเภอจักราช และอำเภอพิมาย) 
  7. สุรินทร์ (อำเภอปราสาท อำเภอกาบเชิง และอำเภอสังขะ) 
  8. อุบลราชธานี (อำเภอเขื่องใน และอำเภอสำโรง)

ภาคกลาง 5 จังหวัด 

  1. สระแก้ว (อำเภอคลองหาด และอำเภออรัญประเทศ) 
  2. ฉะเชิงเทรา (อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา และอำเภอบ้านโพธิ์) 
  3. ชลบุรี (อำเภอเมืองชลบุรี และอำเภอศรีราชา)
  4. จันทบุรี(อำเภอเขาคิชฌกูฏ และอำเภอมะขาม)
  5. ตราด (อำเภอบ่อไร่ และอำเภอเขาสมิง)

ภาคใต้ 11 จังหวัด 

  1. ชุมพร (อำเภอสวี และอำเภอหลังสวน) 
  2. สุราษฎร์ธานี (อำเภอเกาะสมุย เกาะพะงัน ดอนสัก และอำเภอกาญจนดิษฐ์) 
  3. นครศรีธรรมราช (อำเภอขนอม สิชล และอำเภอนบพิตำ)
  4. ยะลา (อำเภอยะหา และอำเภอรามัน) 
  5. นราธิวาส (อำเภอเจาะไอร้อง สุไหงปาดี สุไหงโก-ลก และอำเภอแว้ง) 
  6. ระนอง (อำเภอกะเปอร์ และอำเภอสุขสำราญ)
  7. พังงา (อำเภอเมืองพังงา คุระบุรี ตะกั่วป่า เกาะยาว และอำเภอท้ายเหมือง) 
  8. ภูเก็ต (ทุกอำเภอ) 
  9. กระบี่ (อำเภอคลองท่อม และอำเภอเหนือคลอง)
  10. ตรัง (อำเภอวังวิเศษ) 
  11. สตูล (อำเภอละงู ควนกาหลง และอำเภอทุ่งหว้า)

พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมขัง

ภาคกลาง  

  1. นนทบุรี (อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอบางใหญ่ อำเภอบางกรวย และอำเภอปากเกร็ด) 
  2. ปทุมธานี (อำเภอลำลูกกา และอำเภอคลองหลวง) 
  3. สมุทรปราการ (อำเภอเมืองสมุทรปราการ อำเภอบางพลี อำเภอบางบ่อ และอำเภอพระสมุทรเจดีย์)
  4. กรุงเทพมหานคร
     

ปภ. ได้แจ้งเตือนพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง