'สงกรานต์ 2568' เป็นช่วงที่คนไทยได้กลับบ้านหรือเดินทางท่องเที่ยวอย่างยาวนาน ทำให้ระบบไฟฟ้าภายในบ้านและอาคารมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุไฟฟ้าลัดวงจรหรืออัคคีภัย
จากสถิติกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ระบุว่า ปัจจุบันสาธารณภัยใกล้ตัวที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดคืออัคคีภัย 73% ทั้งในพื้นที่บ้านและอาคารขนาดใหญ่ ทั้งนี้สาเหตุหลักของอัคคีภัยมาจากอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าชำรุด
ไม่มีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ง่าย ดังนั้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นวันหยุดยาว "ชไนเดอร์ อิเล็คทริค" ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ในการจัดการพลังงานและระบบอัตโนมัติ ขอแนะนำ 7 วิธีง่ายๆ ในการเช็กระบบไฟฟ้าภายในบ้านและอาคารเพื่อเพิ่มความปลอดภัยก่อนที่จะออกไปฉลองเทศกาลสงกรานต์เบื้องต้น ดังนี้
การเช็กแหล่งจ่ายไฟหลัก เช่น ตู้เมนไฟฟ้าและเบรกเกอร์เป็นสิ่งสำคัญ คุณควรตรวจสอบทุกจุดของบ้านหรืออาคารเพื่อให้แน่ใจว่าไฟฟ้ายังทำงานได้ปกติ หากพบปัญหาหรืออุปกรณ์เสียหาย เช่น สายไฟขาดหรือมีการไหม้ ควรปิดสวิตช์ไฟทันที เพื่อลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าลัดวงจรและรีเซ็ตเบรกเกอร์ให้ทำงานปกติ
เมื่อสังเกตเห็นเสียงช็อตไฟหรือกลิ่นไหม้จากอุปกรณ์ไฟฟ้า ควรรีบปิดระบบไฟฟ้าทั้งหมดและเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบทันที การลืมตรวจเช็กอาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้
สายไฟที่ชำรุดหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีรอยแตกร้าว ควรทำการสำรวจเพื่อความปลอดภัย หากพบปัญหาหรือชำรุด ควรงดใช้งานอุปกรณ์เหล่านั้น เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
การตรวจสอบระบบสายดินเป็นสิ่งสำคัญมาก หากสายดินหลุดหรือขาด จะทำให้การระบายไฟฟ้าไม่ปลอดภัย ควรตรวจสอบระบบสายดินให้มั่นคงอยู่เสมอ และหากพบปัญหาควรให้ช่างไฟฟ้าทำการซ่อมแซมโดยเร็ว
หากอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือสายไฟสัมผัสน้ำ ต้องห้ามสัมผัสโดยตรง เพราะอาจทำให้เกิดไฟฟ้ารั่วได้ ควรปิดไฟจากแหล่งจ่ายหลัก และให้ช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบเพื่อความปลอดภัย
ในกรณีที่บ้านหรืออาคารมีอุปกรณ์สำรองไฟ (UPS) หรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ควรตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ให้แน่ใจว่ามีพลังงานเหลือพอใช้งาน และตรวจสอบแบตเตอรี่หรือเชื้อเพลิงให้พร้อมใช้งานในกรณีฉุกเฉิน
หากไม่แน่ใจว่าระบบไฟฟ้าภายในบ้านหรืออาคารยังปลอดภัยหรือไม่ ควรปรึกษาช่างไฟฟ้ามาตรวจสอบก่อนใช้งาน เพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรและความเสียหายจากการใช้งานผิดวิธี
การตรวจสอบระบบไฟฟ้าก่อนหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุไฟไหม้ แต่ยังช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับบ้านและอาคาร รวมถึงลดความเสี่ยงในการเกิดไฟฟ้ารั่วที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน การใส่ใจในรายละเอียดของระบบไฟฟ้าเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณฉลองสงกรานต์ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยที่สุด