7 วิธี เช็กระบบไฟฟ้าเพิ่มความปลอดภัย รับมือหยุดยาวสงกรานต์ 2568

11 เม.ย. 2568 | 09:09 น.
อัปเดตล่าสุด :21 พ.ค. 2568 | 04:02 น.

7 วิธี เช็กระบบไฟฟ้า ระบบสายดิน เพิ่มความปลอดภัยทั้งในบ้าน อาคารด้วยตนเองเบื้องต้น เพื่อรับมือฉลองเทศกาลสงกรานต์ 2568

'สงกรานต์ 2568' เป็นช่วงที่คนไทยได้กลับบ้านหรือเดินทางท่องเที่ยวอย่างยาวนาน ทำให้ระบบไฟฟ้าภายในบ้านและอาคารมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุไฟฟ้าลัดวงจรหรืออัคคีภัย

จากสถิติกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ระบุว่า ปัจจุบันสาธารณภัยใกล้ตัวที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดคืออัคคีภัย 73% ทั้งในพื้นที่บ้านและอาคารขนาดใหญ่ ทั้งนี้สาเหตุหลักของอัคคีภัยมาจากอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าชำรุด

ไม่มีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ง่าย ดังนั้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นวันหยุดยาว "ชไนเดอร์ อิเล็คทริค" ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ในการจัดการพลังงานและระบบอัตโนมัติ  ขอแนะนำ 7 วิธีง่ายๆ ในการเช็กระบบไฟฟ้าภายในบ้านและอาคารเพื่อเพิ่มความปลอดภัยก่อนที่จะออกไปฉลองเทศกาลสงกรานต์เบื้องต้น ดังนี้

1. เช็กแหล่งจ่ายไฟหลัก ตู้ไฟฟ้าและเบรกเกอร์

การเช็กแหล่งจ่ายไฟหลัก เช่น ตู้เมนไฟฟ้าและเบรกเกอร์เป็นสิ่งสำคัญ คุณควรตรวจสอบทุกจุดของบ้านหรืออาคารเพื่อให้แน่ใจว่าไฟฟ้ายังทำงานได้ปกติ หากพบปัญหาหรืออุปกรณ์เสียหาย เช่น สายไฟขาดหรือมีการไหม้ ควรปิดสวิตช์ไฟทันที เพื่อลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าลัดวงจรและรีเซ็ตเบรกเกอร์ให้ทำงานปกติ

2. เช็กสัญญาณไฟฟ้าลัดวงจร

เมื่อสังเกตเห็นเสียงช็อตไฟหรือกลิ่นไหม้จากอุปกรณ์ไฟฟ้า ควรรีบปิดระบบไฟฟ้าทั้งหมดและเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบทันที การลืมตรวจเช็กอาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้

3. เช็กสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้า

สายไฟที่ชำรุดหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีรอยแตกร้าว ควรทำการสำรวจเพื่อความปลอดภัย หากพบปัญหาหรือชำรุด ควรงดใช้งานอุปกรณ์เหล่านั้น เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร

4. เช็กระบบสายดิน

การตรวจสอบระบบสายดินเป็นสิ่งสำคัญมาก หากสายดินหลุดหรือขาด จะทำให้การระบายไฟฟ้าไม่ปลอดภัย ควรตรวจสอบระบบสายดินให้มั่นคงอยู่เสมอ และหากพบปัญหาควรให้ช่างไฟฟ้าทำการซ่อมแซมโดยเร็ว

5. เช็กอุปกรณ์ไฟฟ้าที่อาจสัมผัสน้ำ

หากอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือสายไฟสัมผัสน้ำ ต้องห้ามสัมผัสโดยตรง เพราะอาจทำให้เกิดไฟฟ้ารั่วได้ ควรปิดไฟจากแหล่งจ่ายหลัก และให้ช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบเพื่อความปลอดภัย

6. เช็ก UPS และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า

ในกรณีที่บ้านหรืออาคารมีอุปกรณ์สำรองไฟ (UPS) หรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ควรตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ให้แน่ใจว่ามีพลังงานเหลือพอใช้งาน และตรวจสอบแบตเตอรี่หรือเชื้อเพลิงให้พร้อมใช้งานในกรณีฉุกเฉิน

7. รายงานปัญหาหรือขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ

หากไม่แน่ใจว่าระบบไฟฟ้าภายในบ้านหรืออาคารยังปลอดภัยหรือไม่ ควรปรึกษาช่างไฟฟ้ามาตรวจสอบก่อนใช้งาน เพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรและความเสียหายจากการใช้งานผิดวิธี

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าก่อนหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุไฟไหม้ แต่ยังช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับบ้านและอาคาร รวมถึงลดความเสี่ยงในการเกิดไฟฟ้ารั่วที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน การใส่ใจในรายละเอียดของระบบไฟฟ้าเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณฉลองสงกรานต์ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยที่สุด