ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 กระทรวงสาธารณสุข ยึด 4 มาตรการ หลักควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดังนี้
ภายใต้แนวคิด 3 ต “ตระเตรียม - ติดตาม - ตักเตือน” โดยประสานอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ให้ดำเนินมาตรการเข้าถึงชุมชนแบบ “เคาะประตูบ้าน” รณรงค์มาตรการ “3 ต : ตระเตรียม - ติดตาม - ตักเตือน” ดำเนินการกับ 15 ครัวเรือนที่รับผิดชอบ เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับครัวเรือนเป้าหมายในการดูแล ได้แก่ ครัวเรือนที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์/ครัวเรือนที่มีการตั้งวงดื่มแอลกอฮอล์/ครัวเรือนที่มีเยาวชนขับขี่รถจักรยานยนต์ ดังนี้
นอกจากนี้ ในที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พิจารณาเห็นชอบ ให้แก้ไขปรับปรุงร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยังคงให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เฉพาะ 2 ช่วงเวลา
ได้แก่ 11.00 - 14.00 น. และ 17.00 - 24.00 น. เช่นเดิม
สำหรับข้อกฎหมายและบทลงโทษสำหรับการดื่มแล้วขับ
ด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า แนวทางการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงจากการดื่มแล้วขับ เนื่องจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุหนึ่งที่สำคัญของการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ทั้งกับตัวผู้ดื่มและผู้อื่น
จากข้อมูลของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน พบว่า การบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2567 เกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 2,044 ครั้ง (ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 7.22) โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2,060 คน และเสียชีวิต จำนวน 287 คน ซึ่งดื่มแล้วขับเป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ ร้อยละ 22.7 ลดลงจากปี 2566 รถที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด คือ รถจักรยานยนต์
ข้อมูลจากระบบรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ กระทรวงสาธารณสุข (PHER Plus) พบว่า อัตราผู้ใช้รถใช้ถนนดื่มขับล้มเอง (บาดเจ็บและเสียชีวิต) จากอุบัติเหตุทางถนนภาพรวมทั่วประเทศ เทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 พบว่า รถจักรยานยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุร้อยละ 91.32 เป็นผู้ที่ดื่มแล้วขับ และพบว่าผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ดื่มแล้วขับเกิดอุบัติล้มเอง จำนวน 2,160 ราย (ร้อยละ 46.94 ของจำนวนจักรยานยนต์ที่ดื่มแล้วขับ)