กระแส‘สตาร์ตอัพ’แรงเอกชน/รัฐเร่งเดินหน้า

14 มิ.ย. 2559 | 05:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

กระแส “สตาร์ตอัพ” แรงสุดๆ “ม.หอการค้า” เตรียมเปิดศูนย์ IDE Center หลังเข้าร่วมโครงการกับ MIT REAP หวังสร้างผู้ประกอบการใหม่ นวัตกรรมเลิศ ด้านพณ.ประกาศหนุนเปิดไทยเทรดดอทคอม

รศ.ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยเตรียมเปิดศูนย์การสร้างผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม หรือ IDE Center ( Innovation Driven Entrepreneurship) ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้านี้ เพื่อสร้างผู้ประกอบการที่มีความสามารถในการใช้นวัตกรรมเข้ามาขับเคลื่อนธุรกิจหรือผู้ประกอบการ IDE โดยใช้งบประมาณการลงทุนกว่า 50 ล้านบาท รวมงบประมาณการส่งบุคลากรไปร่วมฝึกอบรมความรู้กับสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ หรือ MIT (Massachusetts Institute of Technology) ในโครงการ MIT REAP (Regional Entrepreneurship Acceleration Program)

“มหาวิทยาลัยได้ร่วมมือกับ MIT สำหรับพัฒนาสตาร์ตอัพ แต่ตามความหมายของ MIT สตาร์ตอัพจะต้องเป็น IDE หรือวิสาหกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่คิดใหม่หรือสิ่งใหม่หรือสิ่งที่แตกต่าง การที่ประเทศสามารถสร้าง IDE ที่มีมูลค่ามากขึ้น จะสามารถแข่งขันในตลาดโลก ซึ่งมหาวิทยาลัยได้เปิดสอนสาขาผู้ประกอบการแห่งแรกในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2549 เนื่องจากเห็นเทรนด์มานาน และเชื่อว่าอนาคตจะบูมมากขึ้น โดยศูนย์ IDE จะเปิดโอกาสทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน ให้เข้ามาเรียนรู้และบ่มเพาะ รวมถึงการออกไปปฏิบัติจริงตามแผนธุรกิจที่ได้รับการคัดเลือกด้วย”

นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังได้ปรับหลักสูตรทุกคณะและทุกสาขา ให้นักศึกษาได้เรียนวิชาการเป็นผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เนื่องจากมองเห็นว่าหากไม่พัฒนาไปในทิศทางดังกล่าว จะมีผู้ประกอบการที่ออกมาทำธุรกิจที่แข่งขันกันเองและเป็นธุรกิจที่ไม่มีนวัตกรรม โดยหลักสูตรเปิดใหม่ประกอบไปด้วย 7 สาขาวิชา อาทิ หลักสูตรอนุปริญญา สาขาการท่องเที่ยว หลักสูตรบัญชีบัณฑิต ในระบบอีเลิร์นนิ่ง( e-Learning) เป็นต้น ที่มุ่งเน้นสร้างผู้ประกอบการที่มีนวัตกรรม

ด้านนางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้ประกาศสนับสนุนและผลักดันผู้ประกอบการกลุ่มสตาร์ตอัพ โดยจัดบุคลากรให้คำปรึกษาพร้อมเครื่องมือในการทำธุรกิจ ได้แก่ 1. E-Commerce ผ่านเว็บไซต์ Thaitrade.com ตลาดการค้าออนไลน์อันดับหนึ่งของไทย ที่เป็นอาวุธของการค้าขายออนไลน์แบบ B2B ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถทำการค้าระหว่างประเทศได้อย่างง่าย ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 1.16 แสนราย แบ่งเป็นสมาชิกผู้ขายกว่า 1.8 หมื่นร้านค้า สมาชิกผู้ซื้อจากทั่วโลกกว่า 9.7 หมื่นราย และมีผู้ใช้บริการจากทั่วโลกมาค้นหาสินค้ากว่า 3. 69 ล้านราย เข้าชมสินค้ากว่า 18.53 ล้านครั้ง จาก 237 ประเทศทั่วโลก จำนวนสินค้าบนเว็บไซต์กว่า 2.4 แสนรายการ

Photo : Pixabay
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,165 วันที่ 12 - 15 มิถุนายน พ.ศ. 2559